เพื่อสิทธิสตรี ม็อกซี่ภาพยนตร์วัยรุ่นคอเมดี้ดราม่า ปรับเปลี่ยนจากนิยายชื่อเดียวกันในปี 2017 ของเจนนิเฟอร์ แมธทิว
เพื่อสิทธิสตรี ดูแลรวมทั้งแสดงโดย เอมี พูห์เลอร์ เขียนบทโดย ทามารา เชสต์น่า และก็ ดิลลัน เมเยอร์ แสดงนำโดย แฮดลีย์ โรบินสัน ลอเร็น ช่าย โจเซฟิน แลงฟอร์ด รวมทั้ง แพทริก ชวาร์เซเน็กเกอร์ เป็นภาพยนตร์เน็ตฟลิกซ์ที่ปลดปล่อยออกมารับเดือนประวัติศาสตร์สตรีอย่างเดือนมีนา เนืองแน่นด้วยดาราหนังวัยรุ่นเลือดใหม่ทุกเชื้อชาติ ไม่กัดกัน พร้อมรายละเอียดแสบสันต์ของเหล่าสตรีที่ถูกกดทับ
โดยสังคมมิได้มาเพื่ออะลุ้มอล่วยกับปัญหา แต่ว่าจะตวาดกู่ก้องความโกรธเคืองที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมเวลานี้ การเปลี่ยนแปลงของสตรีนิยมได้เริ่มขึ้นแล้ว! เมื่อมีนักเรียนหญิงยืนขึ้นมาเอ่ยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมสถานที่เรียน ท่ามกลางสังคมที่ยินยอมให้ปัญหาเกิดขึ้น การรวมจิตใจกันของทีมเด็กนักเรียนหญิงที่ต้านสังคมปิตาธิปไตยแล้วก็ความไม่ชอบธรรมในสถานศึกษา ปิตาธิปไตยเป็นระบบชายยิ่งใหญ่
การที่เพศชายทำอะไรก็ได้โดยมีมาตรฐานมากยิ่งกว่าคนอื่นๆ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลถึงผลปรากฏว่า หรือการที่ให้เกียรติคนอื่นๆ เพียงแต่เพราะว่าอีกข้างเป็นเพศหญิงหรือผู้ที่อ่อนแอควรได้รับการดูแลจากตนเอง มากยิ่งกว่าที่จะให้เกียรติเนื่องจากว่าเป็นมนุษย์เช่นกัน หรือการระบุว่าเพศหญิงควรจะประพฤติตัวแบบไหนถึงจะเป็นที่ยอมรับ รีวิวหนัง
โดยภาพยนตร์นำถือเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่กับตัวของ เจนนิเฟอร์ แมธทิวแล้วก็เพื่อนฝูงๆของคุณในยุคไฮสเราล รวมทั้งด้วยมูฟเมนต์ #มีทู หรือการที่คนภายในแวดวงสำราญใจออกมากล่าวว่าตนเองโดนรุกรามหรือก่ออาชญากรรมทางเพศ นั้นออกมาในตอนที่สำคัญ ทั้งยังสำหรับเพศหญิงรวมทั้งเพื่อการต่อสู้เรียกร้องเพื่อสิทธิสตรี เจนนิเฟอร์พูดว่าโน่นก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคุณประโยชน์
แนวทางการขายหนังสือก็ได้ แต่ว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีเป็นสิ่งที่จำเป็นเสมอ เนื่องจากสิทธิสตรีมิได้ซึ่งก็คือเพียงแค่สตรี แต่ว่าหมายความว่าเหยื่อทุกเพศที่มิได้รับความชอบธรรมหรือเปล่ามีเสียงพอเพียงจะต่อสู้กับสังคม ผ่านคำว่า ม็อกซี่ที่แสดงว่า ความมุ่งมั่นตั้งใจอันตั้งใจ ที่หนังหัวข้อนี้กำลังจะพรีเซนเทชั่น เพียงแค่คิดก็น่าดึงดูดแล้ว มาอ่านเรื่องย่อกันก่อนดีมากกว่า
“วิเวียน คาร์เตอร์ เด็กหญิงจากเมืองเล็กๆที่ได้รับแรงผลักดันแม่ของคุณ การค้นหาตนเอง แล้วก็มุมมองต่อสภาพสังคมสถานศึกษาที่ต่างเย็นชาต่อปัญหาไปบริเวณกระทั่ง ลูซี่ ผู้เรียนสาวผิวสีคนใหม่เริ่มถูกรุกรามรวมทั้งออกมาต้านทาน โน่นเลยทำให้คุณก่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิทธิสตรีที่โรงเรียนมัธยมศึกษาปลายของคุณเพื่อขจัดปัญหาการเหยียดหยามเพศ การคุกคามทางเพศ การเฉยต่อการคุกคาม
ความเชื่อมโยงที่เป็นพิษ แล้วก็รวมถึงปิตาธิปไตย (ระบบชายยิ่งใหญ่) ในสถานศึกษาด้วยแนวทางการทำเฟไม่นิสต์ซีน (หนังสือทำมือ) ที่ชื่อว่า ‘ม็อกซี่’ คุณเขียนขึ้นมาแบบไม่เปิดเผยนามแจกให้ทั่วสถานที่เรียน หลายคนเริ่มมีความสนใจ ไม่เฉพาะแต่เพศหญิง แม้กระนั้นรวมถึงเพศชายและก็ผู้อื่นพวกเขาต่างวาดภาพดาวไว้ที่มือ เพื่อแสดงออกเชิงเครื่องหมายสำหรับในการส่งเสริมมูฟเมนต์นี้
จนถึงสั่นทั้งยังคุณครูและก็เด็กนักเรียนผู้ชายตัวยุ่งทั้งหลายแหล่ มิตรภาพแล้วก็การต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของตนก็เลยเกิดขึ้น”
เพื่อสิทธิสตรี ผู้แสดงเด็กผู้หญิงอย่างวิเวียนที่เบาๆเป็นผู้แทนพาพวกเราไปดูความธรรมดาที่เปลี่ยนไปจากปกติของสังคมในสถานศึกษา
เพื่อสิทธิสตรี ปฏิบัติตนรุกราม แล้วก็สารพัดสารพันที่คนแก่จัดแจงได้อย่างแย่จนถึงน่าโกรธ จนถึงมีจุดแปลงขึ้นเมื่อมีคนออกมาต้าน หนังเล่าอย่างเป็นเส้นตรงสะท้อนภาพสังคมชายยิ่งใหญ่ให้มองเห็นไปเลยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันห่วยอย่างไร ซึ่งพวกเราจะอินมากมาย ถ้าเกิดพวกเราดูสังคมที่วุ่นวายเนื่องจากว่าภัยจากการคุกคามทางเพศปัจจุบันนี้ ในส่วนเรื่องราวบางครั้งก็อาจจะมิได้หวือหวา แปลกใหม่อะไร
เพื่อสิทธิสตรี ด้วยเหตุว่ามันเป็นหนังวัยรุ่นสะท้อนสังคมการต่อสู้ที่แสบสันต์ใช้ได้ เพราะเหตุว่าเล่นถึงเรื่องคำว่าเอาจริงเอาจัง บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่ถึงเลือดถึงเนื้อ แม้กระนั้นก็สร้างแรงกระเพื่อมในสังคมได้มากพอควร โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ใดกันแน่ที่ถูกใจแนวๆนี้ แต่ว่าความน่าดึงดูดใจเป็นหนังมีแมสเซจเรื่องสตรีนิยมที่แจ่มชัด เข้าใจง่ายรวมทั้งทำให้มองเห็นได้ว่าความทัดเทียมที่พวกเขาปรารถนาเป็นอย่างไร
รวมทั้งพวกเราจะทำอะไรเพื่อช่วยเหลือหรือเปลี่ยนสังคมขึ้นมาได้บ้าง ราวกับที่นักแสดงเลือกที่จะสู้โดยทำหนังสือทำมือที่เปิดเผยเรื่องห่วยแตกๆที่เกิดขึ้นรวมทั้งให้ความมุ่งหวังกับเพศหญิงในสถานที่เรียน จวบจนกระทั่งสามารถจุดประกายไฟที่ความโกรธเคืองของสตรีทั้งยังสถานที่เรียนได้ โดยที่คุณก็ไม่คาดคิดเช่นกัน ซึ่งก็มีพาร์ทแสบๆฮาๆแบบไม่เน้นย้ำมุกอะไรมากมาย ความรักความเข้าใจ
แต่ว่ามาจากการจิกกัดแซะของผู้แสดงในเรื่องนี่แหละ ซึ่งจำนวนมากก็ตรงดวงใจผมทั้งหมด ผู้แสดงสตรีในเรื่องก็มีหลายแบบหลายสไตล์มีปมมาเป็นช่วงๆและก็ขับไปด้วยความโมโห ซึ่งผมไม่เบื่อหน่ายผู้แสดงที่ดูเหมือนจะคิดมาก เรื่องเยอะแยะกับอะไรแบบงี้หรอก เนื่องจากผมเห็นว่าการที่คนเริ่มรู้สึกแย่หรืออึดอัดแล้วก็ออกมาบอก มันหมายความถึงอย่างงั้นจริง ๆ ก็เลยโมโหอย่างมาก
ที่ถูกคนเพิกเฉยกับปัญหาของสังคม และก็เข้าอกรู้เรื่องนักแสดงในเรื่องอย่างดีเยี่ยม แต่ว่าอย่าเป็นห่วงว่าหนังจะกระทำตนกีดกั้นผู้ชมทีมอื่น ด้วยเหตุว่าหนังให้ภาพความทัดเทียมกับทุกคนอย่างแท้จริง มองได้ทุกเพศทุกวัยเลย ไม่ใช่แค่กับเพศหญิง จะได้ทราบแนวทางประพฤติตนให้สมควรหรือถูกกับผู้อื่นมิได้ผูกขาดกับทีมใดทีมหนึ่ง ไม่ใช่หนังเฟมไม่นิสต์ที่มักถูกติชมว่าใส่รายละเอียดมากมาย
จนถึงถูกดุด่าว่ากล่าว “สตรีนิยมมากจนเกินไป” จริงๆควรจะปรับความนึกคิดก่อนว่าสาสนของความเป็นสตรีนิยมที่อยากได้เป็นอย่างไร สตรีนิยมบางบุคคลโกรธ บางบุคคลก็สุภาพ บางบุคคลก็มองเย็นชา แต่ว่าโน่นไม่ใช่สิ่งที่แยกการอ้อนวอนเพื่อสิทธิเลย นั่นก็คือแนวความคิดเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย จะเพศไหนๆสตรีนิยมเป็นการที่ได้ดำรงชีวิตตนเอง
สำหรับการเป็นมนุษย์อย่างมาก (ใช่ทุกคนเป็นมนุษย์ แม้กระนั้นมนุษย์ก็ต้องมีอิสระ แล้วก็มีชีวิตที่ปลอดภัย ถึงจะเรียกว่ามนุษย์) แม้กระนั้นการแสดงออกต่อปัญหาจะต่างก็เพียงแค่ประสบการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้นของแต่ละคนมากยิ่งกว่า ด้วยเหตุว่าถ้าอย่างนั้นอย่าเมินหน้าผู้ที่กำลังคนร้องด้วยความโกรธว่าหัวรุนแรงหรือไร้เหตุผล เนื่องจากว่าต่างหากที่เป็นเหตุผลแต่ว่าคนส่วนมากชอบถูกใจเฉยชา
และก็ทำประหนึ่งว่าไม่ใช่เรื่องตนเอง ซึ่งน่าสลดใจที่สังคมโซเชียลหรือความเป็นจริงก็เป็นแบบงี้อยู่ แม้กระนั้นอย่างต่ำมันก็จำต้องใครซักคน หรือคนสักทีมที่จะยอมรับฟังปัญหาของพวกเราเสมอ ด้วยเหตุว่าถ้าเช่นนั้นอย่ากลัวที่จะออกมาเรียกร้อง และไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจำเป็นจะต้องถูกใส่ร้ายป้ายสี ด้วยเหตุว่าถ้าหากมันเป็นสิ่งที่ถูกกระทำ พวกเราควรทำให้มีการเกิดความทัดเทียมในสังคม ไม่ถูกก็คือไม่ถูก ไม่มีเลี่ยงหรือเปลี่ยนใดๆก็ตาม
ปัญหาของสังคมเป็นปัญหาของทุกคน
เพื่อสิทธิสตรี ปัญหาของการที่สังคม เห็นว่าเพศหญิงจำต้อง อยู่ห่างจากเพศชาย มันเกิดเรื่องใหญ่ ที่เป็นการปัดความผิดให้กับเหยื่อ แล้วเพราะเหตุใด ไม่สอนให้เพศชาย มายุ่งกับสตรี ตอนเขาไม่ยอมรับ มันก็น่าไตร่ตรอง ว่าเพราะเหตุไร ปัญหาถึงถูกดูที่ข้างสตรีเสมอ ทุกคนจำเป็นต้องเปิดใจก่อน ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคม โดยมากที่เกิดจาก ผู้รุกราม ซึ่งจำนวนมาก เป็นเพศชายจริง ๆ
รวมทั้งภาพยนตร์ ก็ทำให้ภาพ ความไม่ทัดเทียม พวกนี้ยิ่งชัดแจ้ง เยอะขึ้นด้วย ดังเช่นว่า การจัดชั้นตำแหน่งของหญิง การที่หญิงถูกเพศชาย แย่งที่นั่งหรือสัมผัสร่างกาย โดยไม่ยินยอม การมีพริวิลเลจ หรือสิทธิพิเศษ จากคนแก่เพียงแต่ เพราะเหตุว่าตนเอง เป็นหน้าเป็นตา ให้กับสถานศึกษา จนกระทั่งไม่มีผู้ใด สามารถทำอะไรได้ เพราะว่าคนแก่ ก็เห็นว่าหัวข้อนี้ เกิดเรื่องที่น่าเบื่อ
แม้กระนั้นถ้าเกิดปลดปล่อยไว้นาน ๆ มันจะแปลงเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ในช่วงสุดท้ายของเรื่อง ซึ่งจริง ๆ หนังให้เค้าเงื่อนพวกเรา ผ่านรีแอ็ค หรือการแสดงออก ของนักแสดง ถ้าหากใครกันแน่ พิจารณาจะพอเพียง ทายใจได้ว่า เพราะเหตุไรถึงเป็นอย่างงั้น กล่าวได้ว่ามัน มีเนื้อหาแฝง ในแต่ละฉากไว้อยู่ ต้องการให้ดูกันดี ๆ แล้วจะเก็ตว่า เพราะเหตุใดนักแสดง ถึงแสดงออกแบบงั้น
หลักสำคัญจากผู้แสดง ที่ออกมาแสดงความเห็นช้า บางทีอาจเนื่องจากความหวาดกลัวที่จะออกมากล่าวเรื่องที่ตนเองต้องการจะบอก ทั้งยังสังคมหรือความเลื่อมใสที่มีมา บางครั้งก็อาจจะจะต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง กว่าจะออกมากล่าว ทำให้บางคราว การเงียบก็มิได้แปลว่า เขามิได้พึงพอใจปัญหา แม้กระนั้นกำลัง คอยจังหวะอยู่ หรือคนแก่บางบุคคล ที่เลือกจะแออัด หรือปิดปากเหยื่อ
เพื่อทำให้ปัญหา ที่กำลังกำเนิด ในการทำศึกดูแคลนลง แม้กระนั้นในที่สุดแล้ว เมื่อปัญหามันเด่น เกินกว่าจะปกปิด ก็จำต้องสารภาพ กับข้อเท็จจริง กหนังยังพาพวกเรา ไปค้นหาตนเอง ให้สารภาพในสิ่งที่ทำ และก็กระหยิ่มใจ สำหรับการเป็นตัวเอง ถึงแม้ในตอนแรก จะเป็นการทำเพื่อตนเองเป็นที่ชมเชย แม้กระนั้นพอใช้ได้ทำสิ่งต่างๆด้วยใจจริงและก็ต้องการช่วยเหลือ มันก็ทำให้ผลออกมาดี
ถึงแม้มันบางทีอาจจะจำเป็นต้องล้มเหลวไหมเสร็จ แม้กระนั้นตราบเท่าที่มีมิตรภาพ มีคู่รัก แต่งงานพร้อมจะอยู่เคียงคู่เป็นอย่างยิ่งหัวใจโดยไม่ถามใดๆก็ตามก็ไม่มีอะไรที่จะมากีดขวางได้ ถ้าเกิดพวกเรามองเห็นความไม่ดีเหมือนปกติของสังคม มันอยู่ที่พวกเราแล้วว่าจะปลดปล่อยเฉยเมยหรือลุกขึ้นยืนมาทำอะไรสักอย่าง รวมทั้งมันก็ไม่มีอะไรมากจนเกินความจำเป็น
เพราะว่าทุกสิ่งมีการเรียกร้องเสมอเมื่อมันไม่มีความยุติธรรมในสังคม แม้กระนั้นถ้าหากพวกเราเลือกจะอยู่เฉยไม่ทำอะไร พวกเราก็บางทีอาจจะเปลี่ยนเป็นปัญหาซะเอง