รวมผลงานจากอดีต ถึงตอนนี้ ของ ‘น้าค่อม’ ชายผู้มอบรอยยิ้มแล้วก็เสียงหัวเราะให้คนไทย

รวมผลงานจากอดีต

รวมผลงานจากอดีต ‘น้าค่อม’ มีชื่อจริงว่า ‘อาคม ยินดีกุล’ กำเนิดตอนวันที่ 5 ม.ค. 2501 เป็นชาวจ.พระนครศรีอยุธยาโดยกำเนิด เนื่องจากว่าฐานะทางการเงินและก็การเรียนรู้ไม่สูง

รวมผลงานจากอดีต น้าค่อมในยุควัยรุ่นก็เลยเลี้ยงชีพด้วยการเป็นขำขันหรือที่เรียกว่า ‘ตัวโจ๊ก’ ประจำวิกลิเก โดยมีเพื่อนเกลอรุ่นพี่ตอนนั้นเป็นว่าที่เฮฮามีชื่อเสียงของสมัยอย่าง ‘บำเรอ ผ่องแผ้วอินทรีย์’ หรือ ‘โน้ต เชิญยิ้ม’ รวมทั้งเหมือนกับผู้ที่สู้ชีวิตแล้วก็มีความต้องการทั้งสองเดินทางไปสู่กรุงเทวดากล่าวโทษรุ่งโรจน์

รวมผลงานจากอดีต

ถึงแม้จำเป็นต้องแบ่งที่พักผ่อนงอในห้องแออัดคับแคบสลับกันสวมกางเกงออกไปต่างประเทศห้องคนละวันเนื่องจากว่ามีกางเกงตัวเดียว รวมทั้งเอาวิชาตลกขบขันเลี้ยงชีวิตตามวิกลิเกต่างๆ รีวิวหนัง

การเปลี่ยนแปลงมาถึงเมื่อทางการเป็นตลกขบขันคาเฟ่อันเป็นความฝันสูงสุดของเหล่าตลกขบขันตอนสมัย 2530 ได้มาเยี่ยมทั้งสอง อาโน้ต ได้ไปจัดตั้งขึ้นแผนก ‘เชิญยิ้ม’ ร่วมกับอาเป็ด และก็อาศรีหนุ่ม ซึ่งเป็นผู้ที่ทันกันกับมุกจำพวกคิดสดคุยเก่งแบบที่อาโน้ตถนัด ไม่เหมือนกับน้าค่อมที่ไม่ถนัดทางมุกอย่างงี้นัก

แม้กระนั้นท้ายที่สุดน้าค่อมก็ได้ถูกเชื้อเชิญเข้าแผนกเชิญชื่น แปลงเป็น ‘ค่อม ชักชวนชื่น’ โดยมีมุกถนัดประจำตัวเป็นการเล่นมุกแต่งองค์ทรงเครื่องแต่งหน้าแต่งตาให้เฮฮาอื่นๆมาอำเล่น อีกทั้งด้วยลักษณะท่าทางที่ฟันยื่นเห็นได้ชัด

เรื่องฟันก็เลยถูกเอามาเป็นมุกอำประจำตัว จนถึงบางบุคคลเรียกน้าค่อมว่า ‘น้าเหยิน’ ก็มี หน้าที่ของน้าค่อมเริ่มเป็นที่จำได้บ้างจากการเล่นคาเฟ่แล้วก็เมื่อภาควิชาเชิญชวนชื่นได้ออกรายการทีวี แม้กระนั้นสำหรับผลงานที่ทำให้มีชื่อดังเป็นครั้งแรกกลับกลายการแสดงหนัง

ด้านการแสดงอาจพูดได้ว่า เป็นทั้งยังความสามารถพิเศษประสานพรแสวงที่น่าชื่นชอบไม่น้อยของน้าค่อม เพราะเหตุว่าเป็นที่รู้ๆกันอยู่ทั่วแวดวงว่า น้าค่อมนั้นไม่รู้หนังสือ ก็เลยอาศัยการจำบทที่ผู้อ่านให้ฟังเอา จัดเป็นพรแสวงส่วนตัว รวมทั้งด้วยความเป็นมนุษย์เล่นหน้าเก่งได้ทั้งยังบทขบขันหน้านิ่ง หน้าเป็น จะเล่นทางทุกข์ใจก็ได้ นับเป็นความสามารถพิเศษที่เมื่อบวกกับความเพียรพยายามทดแทนการไม่รู้หนังสือแล้ว น้าค่อมก็เลยเป็นอีกผู้แสดงที่ผู้ชมมักจำได้

รวมผลงานจากอดีต

ผลงานหนังเรื่องแรก ที่น้าค่อมได้เล่น เป็นการเป็นตัวละครประกอบชื่อ ใบ ในเรื่อง ‘กลิ่นสีรวมทั้งหนแปรง’ ในปี 2539 โดยหน้าที่ของเขาเป็นเด็กนักเรียนศิลป์รุ่นโข่งที่เรียนไม่จบพลาดท่า รวมทั้งด้วยความขาดแคลนก็เลยจำต้องไปขับขี่รถรถตุ๊กๆเลี้ยงชีวิตด้วย ให้โอกาสให้เพื่อนพ้องน้องพี่ในภาควิชามักเข้ามาเล่นมาเย้าแหย่ด้วยกระทั่งกำเนิดความฮาเสมอ

ผลงานสร้างชื่อคราวแรก ภายหลังห่างหายจากหนังหนังไปนาน การกลับมาในหนังเรื่องที่ 2 ของน้าค่อมกลายเป็นการแจ้งกำเนิดครั้งสำคัญที่ทำให้คนประเทศไทยจำเขาได้ โน่นเป็น ‘7 ต่อสู้’ ในปี 2545 ที่ผู้กำกับ เฉลิม สกุลพิมพ์ ปัดฝุ่นงานเก่าของผู้กำกับระดับตำนาน ส. อาสนจินดา มาสร้างใหม่ 9ผู้กำกับ

และก็น้าค่อมในบท ‘จุก เบี้ยวสกุล’ มือระเบิดประจำกรุ๊ป ซึ่งกำลังจะไปสู่พิธีการบรรพชาชดเชยพระคุณแม่ที่รอมาตลอดชีวิต แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าทานการรบเร้าจากมิตรสหายอีก 6 คนให้ไปร่วมภารกิจไม่ไหวก็เลยจำเป็นต้องคีบวชมา คราวนี้น้าค่อมได้เกาะติดศิลปินใหญ่ที่สมัยอย่าง ดงษ์พัฒน์ วชิรบรรต้อง และก็ศิลปินมีชื่อเสียงอีกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย

การบรรลุผลเป็นอย่างมากกระทั่งทำรายได้ถึง 58.30 ล้านบาทของหนังประเด็นนี้ ก็ได้สร้างลายเซ็นใหม่ให้คนจำน้าค่อมในขบขันสายสบถ ไม่ค่อยพูดแต่ว่าจังหวะจะโคนโดนทุกคำ รวมทั้งการมีเสียงหัวเราะที่แจ่มใสเป็นเอกลักษณ์ด้วย และก็ต่อจากนั้นในปี 2548 หนัง ‘7 รบ 2’ ก้ได้ออกมาสืบต่อการบรรลุผล โดยน้าค่อมยังกลับมารับบทบาทจุก เบี้ยวสกุลอาทิเช่นเดิม โชคร้ายที่หัวข้อนี้เปลี่ยนเป็นหนังภาคสุดท้ายของหนังชุดนี้ด้วย

ผลงานละครทีวี ในปี 2544 น้าค่อมก็ได้เปิดฉากงานแสดงละครเรื่องแรกเป็น ‘แม่มดยอดยุ่ง’ ทางสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ช่อง 7 ก่อนที่จะเริ่มส่งผลงานมากเพิ่มขึ้นในปี 2545 เมื่อหนัง ‘7 ประจัญบาน’ ประสบความสำเร็จ

โดยได้แสดงเป็นลูกคู่ตัวฮาในละครท้องถิ่นเรื่อง ‘อิเหนา’ ทางสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ช่อง 3 รวมทั้งอีกประเด็นในปีเดียวกันเป็น ละครเรื่อง ‘มรดกหกคะเมน’ ทางสถานีส่งและกระจายสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ช่อง 5 ซึ่งภายหลังจากปีนี้ น้าค่อมก็มักได้โอกาสได้งานแสดงละครอย่างสม่ำเสมอรวมแล้วกระทั่งตอนนี้กว่า 57 เรื่อง

ในดูเหมือนจะทุกสถานีโทรทัศน์ประเทศไทยทีเดียว รวมทั้งผลงานที่น่าจะเป็นที่จำเยอะที่สุดเรื่องหนึ่งเป็นการเล่นในซีรีส์ตลกขบขันชุด ‘บริษัทฮาไม่จำกัด’ ทางช่อง 9 ซึ่งถัดมาได้ย้ายไปถ่ายทอดทางช่อง One 31 ในชื่อ ‘บริษัทฮาไม่จำกัด (มหาชน)’

ผลงานที่น่าจำ แม้ไม่นับบท จุก เบี้ยวสกุล ที่ขึ้นหิ้งในความจำของผู้ชมแล้ว หน้าที่ของน้าค่อมในด้านการแสดงก็ชอบวนเวียนอยู่กับเรื่องผี เรื่องอันธพาล ตามสไตล์ภาพยนตร์ตลกที่เป็นแถวหนังที่ได้รับความนิยมในตอนใหญ่ของแวดวงภาพยนตร์ไทย ทำให้น้าค่อมเห็นแก่ได้รับบทบาทเป็นต้นว่า พระ หมอปราบผี สัปเหร่อ จิ๊กโก๋ หรือตำรวจ อยู่เป็นประจำ โดยสำหรับแฟนหนังคนประเทศไทยมักจำหน้าที่ของน้าค่อมเจริญจากหนังพวกนี้

‘สิทธิ์’ ในหนัง ‘แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า’ ปี 2549 ด้วยภาพจำหน้าม้าเต่อผมทรงกะลาครอบเข้าคู่กับ โก๊ะตี๋ อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย แถมยังรับส่งกับผู้แสดงนำชายอย่าง แดน วรเวช ได้อย่างเนียนตา ทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งหน้าที่การแสดงที่น่าจดจำของน้าค่อม โดยฉากเรียกฮาที่คนไหนกันแน่ก็จำเป็นต้องจำได้เป็นฉากสักยันต์นั่นเอง

‘ลุงปรีชา’ ในหนัง ‘ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก’ ปี 2561 รวมทั้ง ‘ไบค์แมน​ 2’ ปี 2562 เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่ล้อเลียนมาจากอาจารย์คนที่ใครๆก็รู้จักที่เป็นข่าวในสังคม แล้วก็ด้วยการออกแบบให้ผู้แสดงเป็นคนซอกแซก ช่างสังเกตสังกาช่างสงสัย

ดูซีเรียสจริงจัง ก็ทำให้เมื่อเข้าบทตลกก็ยิ่งกำเนิดความไม่ลงรอยกันที่มองตลกโปกฮาขึ้นไปอีก การที่ตัวละครนี้ได้อยู่ในหนังทั้งยัง 2 ภาค ก็คงจะบอกถึงความนิยมก้าวหน้า ฉากเรียกฮาที่น่าจำก็อาจเป็นฉากยาขยันในภาคแรก และก็ฉากต่อล้อต่อเถียงกับ เต๋า สมชาย ในภาค 2 นั่นเอง

Share:

Author: admins