หนังดังเน็ตฟริก ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง Train to Busan

หนังดังเน็ตฟริก

หนังดังเน็ตฟริก ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง Train to Busan

หนังดังเน็ตฟริก ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง (ภาษาอังกฤษ: Train to Busan) (ภาษาเกาหลี: 부산행, พูซันแฮง) เป็นภาพยนตร์เกาหลี แนวสยองขวัญ เขียนบทโดย พัค จงซอก และยอน ซังโฮ กำกับโดยยอน ซังโฮ ซึ่งเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียง ในด้านผลงาน ภาพยนตร์แอนิเมชัน และได้รับรางวัล จากเทศกาลหนัง

เมืองปูซาน ในผลงาน The King of Pigs และ The fake มีอี ดงฮา และจาง คยองอิก เป็นผู้อำนวยการสร้าง และค่ายผู้ผลิต และจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แก่ Next Entertainment World และ Red Peter film

ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากเหตุการณ์ไวรัส Mers แพร่ระบาดอย่างหนัก ในเกาหลี ระหว่างเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2558 และยังเป็นภาพยนตร์ เรื่องแรก ที่ใช้คนแสดงจริง ของผู้กำกับยอนซังโฮอีกด้วย เนื้อหาของภาพยนตร์ ว่าด้วยการแพร่ระบาด ของเชื้อโรคประหลาด

ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อ กลายเป็นซอมบี้  โดยสอดแทรก เรื่องราวปัญหา ภายในครอบครัวนักธุรกิจ ที่แยกกันอยู่กับภรรยา และเหตุการณ์แวดล้อม ที่สะท้อนสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ ในภาวะคับขันที่ต้องหนีเอาตัวรอด ภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังเป็นผลงานเรื่องแรกของกง ยู หลังจากว่างเว้นจากผลงานละคร

และภาพยนตร์ไปนานกว่า 3 ปี และนักแสดงมีชื่อเสียงอื่น ๆ เช่น มา ดงซอก จอง ยูมี และนักแสดงเด็กอย่าง คิม ซูอัน

หนังดังเน็ตฟริก

เนื้อเรื่อง ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง

ภาพยนตร์นี้ เป็นหนึ่งในเรื่องที่ได้รับเลือก ให้เข้าฉาย ในงานเทศกาลหนัง เมืองคานส์ ครั้งที่ 69 ที่ประเทศฝรั่งเศส และเมื่อออกฉาย ก็ได้กลายเป็นภาพยนตร์ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เรื่องหนึ่งในปีพ.ศ. 2559 ของผู้กำกับยอนซังโฮ และของวงการ ภาพยนตร์เกาหลี โดยมีภาคต่อชื่อว่า

PENINSULA ฝ่านรก ซอมบี้คลั่ง โดยมีนักแสดง กลุ่มใหม่ มารับบทแทน ได้แก่ คังดงวอน อีจองฮยอน ลี เร คู ฮโยฮวาน ควอน แอฮโย คิมมินแจ โดยเรื่องราว จะต่อจากภาคแรก โดยเป็นเหตุการณ์ 4 ปีให้หลัง จากเชื้อแพร่ระบาด ทั่วคาบสมุทรเกาหลี ทำให้เกาหลี กลายเป็นดินแดนร้าง

ที่มีแต่ฝูงซอมบี้ โดยมงคลภาพยนตร์ ซื้อลิขสิทธิ์ เข้าฉายที่ไทย 23 กรกฎาคม 2563

หนังดังเน็ตฟริก

การตอบรับ ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง

สภาภาพยนตร์เกาหลี รายงานว่าภาพยนตร์ ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง ได้รับความนิยมสูงสุด ตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายในเกาหลี โดยมีผู้ชมในวันแรกถึง 858,659 คน และได้เข้าฉายใน 1,567 โรงภาพยนตร์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นภาพยนตร์เกาหลี ที่มีจำนวนโรงภาพยนตร์ การเข้าฉายมากที่สุด ในประวัติศาสตร์

และทำรายรวมในเกาหลีใต้ สูงถึง 80.46 ล้านเหรียญ หรือกว่า 2,700 ล้านบาท เช่นเดียวกับ ในประเทศไทย ซึ่งติดตามกระแสความนิยม ตั้งแต่เปิดตัวในเกาหลี จนเมื่อเข้าฉายในประเทศไทย ทำรายได้ในสัปดาห์แรก 18.0 ล้านบาท และในสัปดาห์ที่สองอีก 17.5 ล้านบาท มาเป็นอันดับที่ 1

และร่วงลงมาอยู่ในอันดับที่ 2 ในสัปดาห์ที่สาม ด้วยรายได้ 9.0 ล้านบาท รวมรายได้ตลอด 5 สัปดาห์กว่า 74 ล้านบาท (นับเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล) ซึ่งนับเป็นภาพยนตร์เกาหลี ที่ทำรายได้สูงสุด ในประเทศไทย เช่นเดียวกับ กระแสในมาเลเซียและสิงคโปร์

โดยนอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังได้รับการรติดต่อ ซื้อลิขสิทธิ์จากค่ายภาพยนตร์ตะวันตก ทั้งจากฮอลลีวูด และประเทศในยุโรป ที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น 20 Century Fox Sony Pictures Canal Plus EuropaCorp เพื่อนำมาสร้างใหม่

 

หนังดังสตรีมมิ่ง

Share:

Author: admins