หลังหยิบเอาตำนาน ในตอนนี้มีเรื่องมาดัดแปลงและเล่าเรื่องราวใหม่อีกครั้ง

หลังหยิบเอาตำนาน

หลังหยิบเอาตำนาน มาทำความไฮบริทอีกครั้งของผีไทย

หลังหยิบเอาตำนาน มาสร้างใหม่เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว อีกทั้งยังแทรกสอดบริบทของสังคมการเมืองเข้าไปในหนังอย่างแนบเนียน ยังไม่รวมไปถึงช่วงไคลแมกซ์ที่เรียกได้ว่ายกระดับหนังไทยไปสู่ทิศทางใหม่ๆที่น่าสนใจ มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น และเราอาจจะกล่าวได้ว่ามันเป็นการ “พัฒนา” ความเชื่อเดิมๆให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น

  • สองศรีพี่น้อง

ความสัมพันธ์ ระหว่างสองลูกพี่ลูกน้อง อย่าง วีณารวมทั้งโมรา โดยวีณา ผู้เป็นพี่จำต้องบากบั่น คุ้มครองปกป้องน้องสาว อย่างโมรา ให้รอดพ้น จากการตามล่าจากกลางคืน นางพญากระสือ ที่มีแผนสำหรับ การออกตามล่าโมรา ซึ่งจะกำลัง จะแปลงร่าง เป็นกระสือหนแรก ในอีกไม่ช้า ความแค้นของราตรี เริ่มขึ้นจากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นมาแล้ว ที่เชื่อมโยงกับ เครือญาติของโมรา สองญาติพี่น้องต้องต่อสู้ เพื่อก้าวผ่าน ความไม่ถูกกัน คราวนี้ไปให้ได้

  • ความทรงจำ “กระสือ” ของผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้ว

จากนิยายภาพเรื่อง “ผีกระสือสาว” ที่เขาเคยได้อ่าน ในยุคเด็ก ทำให้ผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้วรับทราบถึงความน่าสยองของกระสือสาว แล้วก็ศึกษาที่มาที่ไปของผีสาวตนนี้ จวบจนกระทั่งในปี พุทธศักราช2516 “บริษัทศรีสยาม” ได้นำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “กระสือสาว” นำแสดงโดย “พิศมัย วิไลศักดิ์” แล้วก็ “สมบัติ เมทะนี”

ซึ่งคิดออกเป็นอย่างดีว่า วันที่เขาไปดูภาพยนตร์นั้น มีผู้ชมแค่เพียง 2 คนเพียงแค่นั้น เป็นเขาและก็ เด็กผู้ชาย วัยไล่เลี่ยกัน อีกหนึ่งคน ถึงแม้ทีแรกๆ พวกเราจะนั่งคนละที่ แม้กระนั้น พอสมควร ไปได้ถึง กึ่งกลางเรื่อง ด้วยเหตุว่า ความหวาดกลัว! ทำให้พวกเราสองคน ขยับมานั่งชิดกัน พอสมควรหนังจบก็ได้สนทนาแล้วก็แปลงเป็นเพื่อนกัน จนถึงบางทีอาจจะกล่าวได้ว่าได้เพื่อนพ้องคนชอบดูหนังจากการดูผีกระสือสาวเลยก็ว่าได้

สำหรับกระสือ เป็นผีที่มีลักษณะแตกต่าง จากผีไทยอื่นๆ โดยทั่วไป ปรัชญาคิดว่า กระสือไม่น่า จะเป็นผี บางทีก็อาจจะ เป็นเอเลียน หรือสิ่งแปลก ที่มาจากต่างดาว ก็เป็นได้ เขาก็เลยมีความสนใจ ต้องการจะทำหนัง เกี่ยวกับกระสือ มาตั้งแต่ราวๆปี 1995 ในช่วงเวลานั้นตั้งชื่อว่า “ผีกระสือ 2000” คืนเงินต้นพร้อมดอก

เป็นต้อนรับโลกไปสู่คริสต์ศักราช 2000 โดยหนัง จะตั้งคำถามว่า หากผีกระสือ ที่เรารู้จัก มันมีอยู่จริง ในตอนนี้ ชีวิตเขาจะคืออะไร จะตามหารับประทาน ของสกปรก เหมือนครั้งก่อนหรือไม่ หรือเรา แปลความหมาย เป็นสิ่งมีชีวิต จากต่างดาวล่ะ จะเป็นยังไง วัฒนธรรมผีไทย มีผีหลายประเภท มากมาย หากทดลอง จัดลำดับ ลำดับที่หนึ่งเป็น “ผีนางนาก” อันดับสองเป็น “ปอบ” ส่วนอันดับสามคงจะเป็น “กระสือ” นั่นเอง

  • กระสือในเมืองใหญ่

จากความจำในวัยเด็ก เอามาสู่ความตั้งใจ ที่อยากจะปรับปรุง “กระสือ” ให้แปลงเป็น โปรเจ็คในฝัน ไปสู่หนังในหนทางแอ็คชั่นตื่นเต้น ที่แหวกแนวและไม่ซ้ำคนไหนกัน ถึงแม้ตัวของปรัชญาเองจะไม่เชื่อว่าผีมีอยู่จริงในโลกใบนี้ แต่ว่าเขามานะเอาแนวความคิดทางวิทยาศาสตร์เข้าไปตอบคำถามการปรากฏกลุ่มนี้ ผลสรุปที่เขาประมวลออกมาได้เป็น ผีอาจจะไม่มีอยู่จริง แม้กระนั้นความกลัวนั้นมีอยู่จริง

แล้วก็เมื่อมันบวกกับจินตนาการเข้าไป คำตอบที่ได้ออกมาเป็น “จินตนาการของรูปลักษณ์กระสือ” ดังนั้นมันมีความหมายว่า กระสือเริ่มมาจากคนสร้างภาพ ผู้ที่เชื่อในรูปภาพ แล้วก็ผู้ที่คิดตามไปเอง ปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน จนกระทั่ง กลายเป็นเรื่องราวของผีกระสือแบบที่เราได้มองเห็นในทุกวันนี้

จากตำนาน สู่ยุคสมัย ที่เปลี่ยนแปลงไป ก็เลยเกิด การตีความใหม่ว่า วงจรของกระสือ ต้องกำเนิด การเปลี่ยนแปลง ไปเช่นกัน แนวความคิด ที่ว่าผีกระสือนั้น อาจจะมวลสาร ที่จับต้องได้ หรือจริงๆ กระสือบางครั้ง อาจจะเป็นเอเลี่ยน หรือสัตว์ประหลาด ที่มาจากนอกโลก และก็อาศัย อยู่ในร่างคน เพียงแต่เวลา ทำมาหากิน มันจะต้องถอดหัว ออกไปพบของกิน

เขาพูดว่า “ผีกระสือในเมืองใหญ่ ผมว่า มันเป็นภาพที่ยาก และท้าดีครับผม ผีพวกนี้ เขาไมได้ทำร้ายคนเลยด้วย  เขาหลบๆมนุษย์ด้วย เขาเพียงแค่ ยังอยู่ได้ เพียงแค่คนไหน อย่าไปรังควานเขา เท่านั้นล่ะ ด้วยเหตุนั้น ตอนที่พวกเขาไล่ล่า นางเอกกลางเมืองเนี่ย

เขาก็ไล่ล่าไปด้วย ก็ต้องหลบไปด้วย หลบไม่ให้ผู้คนเห็น ผมจินตนาการว่า เขาแฝงตัว อยู่กับเรามานานแล้ว โดยที่เราไม่รู้ตัว แล้วเราจะรู้ได้ไง ว่าแสงไฟที่เราเห็น ตอนกลางคืน บางแสงอาจจะเป็นแสงไฟ จากกระสือก็ได้” รีวิวหนัง

Share:

Author: admins