ไบค์แมน2 หลังจากความสำเร็จของภาคแรกในระดับทำรายได้ 50 ล้านบาท

ไบค์แมน2

ไบค์แมน2 หลังจากความสำเร็จของภาคแรกในระดับทำรายได้ 50 ล้านบาท

ไบค์แมน2 ผู้กำกับพฤกษ์ เอมะรุจิก็เลยกลับมาปฏิบัติหน้าที่เดิมสำหรับการสืบต่อเรื่องราวจากภาคแรกเมื่อปี 2561 ผลงานร่วมสร้างระหว่าง Workpoint แล้วก็ M Pictures ที่อำนวยการสร้างโดยยอร์ช-ฤกษ์ชัยประเด็นนี้

ยังคงได้ผู้แสดงชุดเดิมกลับมาทั้งปวงอย่าง พีช-พชร จิราธิวัฒน์ ที่ในปีนี้กำลังอยู่ในกระแสข่าวเลิกรากับนางเอกอีกคนยากจนเปลี่ยนเป็นกระแสที่ช่วยส่งให้หนังดังด้วยก็เป็นได้, ฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์กว้างใหญ่, นักร้องดัง เจนนิเฟอร์ คิ้ม, ค่อม เชิญชวนชื่น, โรเบิร์ต สายควัน, โอ๊ต-ความสำราญ ชาวปาทาน สมทบด้วยผู้แสดงใหม่ เต๋า-สมชาย เข็มกลัด รีวิวหนัง

จากการบรรลุผลในภาคแรกกับหนังมองเอาฮาและก็ความสนุกสนาน การตีเหล็กตอนร้อนด้วยการส่งภาค 2 ตามมาติดๆในปีต่อมา (ซึ่งเป็นสูตรที่พี่นาคของไฟว์สตาร์ก็เดินตามสำหรับในการรีบส่งภาค 2 ในปีต่อมาเลย)

ไบค์แมน2

ก็เป็นอีกสูตรที่ดีของหนังไทยที่คนพร้อมจะเข้ารับความเพลิดเพลินแบบไม่ต้องคิดอะไรมากมาย

ถึงแม้ว่าภาคนี้จะทำรายได้ร่วงจากภาคแรกลงไปแทบครึ่ง ก็บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องมาลุ้นกันว่า หนังจะมีภาค 3 ตามออกมาอีกหรือเปล่า

เป็นหนังคอมเมดี้ที่คิดเร็วทำเร็วได้จริง ภายหลังจากไบค์แมนภาคแรกออกฉายเมื่อปีที่ผ่านมา ทำรายได้จากทั้งประเทศทะลุ 100 ล้านบาท นี่ยังไม่รวมรายได้ที่ขายสิทธิ์ให้ไปอีกหลายประเทศด้วยนะ ทำให้ “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” เป็นหนังคอมเมดี้ที่บรรลุผลสำเร็จที่สุดในช่วงหลังๆ

ของค่าย รฤก โปรดั๊กชั่น ของ ยอร์ช เวลาชัย เนื่องจากเรื่องปัจจุบันที่ทำรายได้มากให้ค่ายก็จำเป็นต้องย้อนไปถึง “คุณนายโฮ” ปี 2555 โน่น รฤก โปรดั๊กชั่น ก็รีบคลอด ไบค์แมน2 ตามติดในปีถัดมา มอบหน้าที่ให้ พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับจากภาคแรกมาสืบต่อการบรรลุเป้าหมาย หนังไทยภาคต่อ

ใน “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” ทิ้งฉากจบไว้ให้ผู้ชมได้จิ้นกับความรักของ อำนาจ กับ จ๋าย ที่ดูเหมือนจะจบกันด้วยดี ภายหลังผ่านความวุ่นวายมาตลอดทั้งเรื่อง เหตุจากอำนาจหลอกที่บ้านว่าเป็นชายหนุ่มธนาคาร

ทั้งๆที่ตนเองดำเนินงานเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แล้วก็หลอก จ๋าย เพื่อสาวที่ศักดาหมายปองมาตั้งแต่เด็กอีกด้วย มาถึงภาคนี้เรื่องราวของหนังก็สืบต่อ ที่ยังคงจับหัวข้อหลักเรื่องภารกิจปราบหัวใจจ๋าย ภายหลังที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างหนัง ด้วยการเน้นนักแสดงใหม่อย่าง “เต๋า สมชาย” ให้มาเป็นคู่แข่งขันตัวฉกาจกับ “คุณลุงความสามารถ” บทของน้าค่อม

ในหนังจริงก็เผยตัวว่า เต๋า สมชายหมายถึง“ศักดา” บิดาของคะย เป็นบิดาจอมเฮี้ยบ เดี๋ยวนี้เป็นเจ้าของเหมืองอยู่ในบ้านนอก ข้อความสำคัญของเรื่องก็คือ แรงเป็นพ่อที่เจ้ากี้เจ้าการชีวิตบุตรสาว อยากที่จะให้บุตรสาวมีคู่รักที่ดี

ก็เลยจะจัดการหาผู้ชายมาให้คะยดูตัว จ๋ายรำคาญก็เลยบอกบิดาว่า “อำนาจ” เป็นแฟนของจ้ะย อำนาจอยากรู้จะว่าที่ลูกเขยอย่างเป็นจริงเป็นจัง ก็เลยบอกให้อำนาจพาครอบครัวมาพักที่บ้านของเขา เพื่อจะได้ทำความรู้จักครอบครัวของอำนาจ

เปลี่ยนเป็นจุดเริ่มแรกของความเบิกบานใจ เมื่อกลุ่มกลุ่มปั่นป่วนฮาในภาคแรกได้เดินทางมาบ้านของพลังร่วมกันหมด ทั้งยังแม่สุรีย์ คุณลุงความสามารถที่ลิงราชสีห์ลูกชายติดไปด้วย พี่หลง มอไซค์วินก็ตามไปสมทบอีกด้วย แถมยังมีพี่เอ คู่รักเก่าตามไปง้อถึงที่อีกด้วย รอบนี้ผู้แสดงหลักก็เลยมารวมกันอยู่ที่เดียว ไม่ต้องเดินทางไปมาระหว่างเรื่องอีกแล้ว

หนังจับเอาสูตรสำเร็จจากภาคแรกมาใช้เพียบ อย่างประเด็นที่ว่าด้วยเรื่อง “การโกหก” รอบนี้ทั้งยังกลุ่มกลุ่ม จำต้องแต่งเรื่องพูดเท็จว่า คะยกับศักดา เป็นคู่รักกันจริง ได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกกลุ่มที่จำต้องช่วยกันปั้นน้ำเป็นตัวมาหลอกอำนาจป๊ะป๋าของค่ะย อำนาจเองก็เล่นตามน้ำไปซะแบบนั้น

ทั้งๆที่ในใจเขานั้นอยากเป็นคนรักกันจริงไม่ต้องมาโกหกอย่างนี้ หนังก็เลยได้มุกปั้นเรื่องพูดเท็จแบบภาคแรกมาปรับใช้อีกครั้ง เมื่อผู้แสดงหลักมารวมกันอยู่หมด การจะเขียนบทสร้างสถานการณ์ฮาก็ทำเป็นง่ายดายมากยิ่งขึ้น หนังก็เลยมีฉากเรียงเสียงเฮได้ถี่ๆตลอด 1 ชั่วโมง 47 นาที หนังเรียกเสียงเฮได้จริง แม้กระนั้นพลังความฮายังด้อยกว่าภาคแรกนัก ฉากเด็ดที่สุดในภาคนี้ก็น่าจะเป็น “ฉากงูเห่า” นั่นแหละ

ตอนที่หนังทำการบ้านมาดี รู้ดีว่าผู้ชมถูกใจอะไร และไม่ถูกใจอะไรจากภาคแรก กลุ่มเขียนบทก็เลือกย้ำในสิ่งที่ผู้ชมถูกใจ และก็เลือก “ตัด” ในสิ่งที่ผู้ชมเกลียดชัง ในภาคนี้พวกเราก็เลยเห็น อำนาจเอ่ย”คำคม”เพียงครั้งเดียว

คนที่แบกรับภาระหนักในภาคนี้ก็ยังคงเป็น “น้าค่อม” เช่นเคย การใส่บท “ศักดิ์” เข้ามาในฐานะคู่ต่อสู้ ก็เช่นเดียวกับเปิดโอกาสทางให้น้าค่อมตบมุกได้อีกมากมาย ด้วยภาพลักษณ์อันธพาลของเต๋า สมชาย ก็เลยทำให้เต๋ามักมากบทแนวชั่วร้ายดุอยู่ตลอด

แม้กระนั้นเมื่อใดก็ตามเต๋าเอ่ยเสียงขึ้นมาเมื่อใด พลังความเข้มมันตกฮวบเสียทุกครั้ง ถ้าเกิดเต๋าผ่าตัดกล่องเสียงตั้งแต่ยังชายหนุ่ม คงจะรุ่งกว่านี้นะ เสียงเต๋ามองนุ่มขัดกับภาพลักษณ์อย่างยิ่ง แต่ว่าด้วยภาพลักษณ์หนวดเคราพะรุงพะรังก็มองเหมาะกับบทเจ้าพ่อเหมือง ขอชื่นชอบการทำหัวล้านบาร์โค้ดด้วย เป็นงานเมคอัปที่มองแนบเนียนเหมือนจริงดี

ในขณะหนังเดินหน้าไปด้วยเส้นเรื่องหลัก กล่าวถึงการสร้างสโมสรของ 2 ครอบครัว เส้นเรื่องรองก็คือประเด็นการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างศักดิ์กับเจ้าพ่อที่อยากได้ซื้อบ่อแร่ของพลังในราคาต่ำ

ส่งผลให้เกิดความโกลาหลวุ่นในฉากด้านหลังเรื่อง ดูแล้วชวนให้นึกถึงสูตรสำเร็จแบบที่ แฟรนไชส์ “บุญชูสระอูยาว” ถูกใจใช้ในทุกภาค สร้างสถานการณ์ให้ผู้แสดงมารวมกัน เขียนบทให้หยอดมุกฮาเรี่ยไร่ตามทางไปบ่อย แล้วจบด้วยความวุ่นวายยุ่งเหยิง แล้ววกเข้าแฮปปี้เอนดิ้งในตอนสุดท้าย ไบค์แมน2

ก็มาด้วยสูตรนี้แบบเป๊ะๆแต่ว่าโดยสาเหตุมาจากที่ว่านี่เป็นหนังชื่อ “ไบค์แมน” ผู้แสดงนำชายของเรื่องเป็นชายหนุ่มผู้รักความเร็วของมอเตอร์ไซค์ เพราะฉะนั้นก็ควรจะมีฉากให้อำนาจได้โชว์ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการขี่จักรยานยนต์ ก็จัดว่าคณะทำงานหาทางใส่ฉากขี่รถมอเตอร์ไซค์ให้อำนาจเข้าไปในเรื่องราวได้อย่างพอดี

แต่ก็จำเป็นต้องเห็นด้วยว่าแม้ว่าจะเป็นสูตรสำเร็จ แม้กระนั้นฉากจบด้วยบรรยากาศกุ๊กๆกิ๊กๆของ อำนาจรวมทั้งคะยก็ทำให้ดูแล้วอดยิ้มตามเสียมิได้ ฝน ศนันธฉัตร ยังปฏิบัติภารกิจสีสันความแจ่มใสเพียงแค่เดียวของเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม ต้องการฮาก็ได้ฮาอยู่นะ แต่ว่าก็ไปได้ไม่เท่าภาคแรกนะครับ

Share:

Author: admins