กุมารทอง ดีเจเพชรจ้า เล่าสถานะการณ์ชวนขนลุกเมื่อลูกชาย น้องไทก้า ได้เจอกุมารกล้าเป็นครั้งแรก
กุมารทอง ดีเจเพชรจ้าเล่าสถานะการณ์ชวนขนลุกเมื่อลูกชาย น้องไทก้าได้เจอกุมารกล้าเป็นครั้งแรก ข้างหลังมั่นใจว่าลูกชายคือกุมารมาเกิด ความสุขของคนเป็นสามี
ซึ่งก็คือมองเห็นภรรยาแฮปปี้ และลูกตัวน้อยๆ มีสุขภาพแข็งแรงทุกๆ วันเท่านี้ก็คงจะพอเพียงแล้ว แต่ว่าสำหรับพ่อบ้านกล้าหาญหล่อขั้นคาสโนว่าอย่างดีเจเพชรจ้า มีหรือจะปกติแบบคนอื่นๆ อีกทั้งทุ่มเทปฏิบัติงาน แบ่งเวลาให้กับเรื่องส่วนบุคคล เรื่องครอบครัวได้เก่งสุดๆ แล้ว
เจ้าตัว ที่ได้มาเยี่ยมรายการต้มยำอมรินทร์ เห็นด้วยแบบแมนๆ ว่าได้ถอดเขี้ยวเล็บจากเสือกลายเป็นสามีที่ดีรักรวมทั้งกลัวภรรยามาก พร้อมยังเปิดเผยความลี้ลับที่อยู่ในตัวของไทก้า ลูกชายสุดที่รักอีกด้วย
ดีเจเพชรจ้าตอนที่มีโรคระบาดเหล่านี้ อยู่บ้านร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ อยู่แต่ว่าบ้านเลี้ยงลูก เพราะว่าก่อนจะพบโควิด พวกเราก็ทำงานหนักมากรับงานทุกประเภท ถ่ายงานแต่ละวัน ออกไปถ่ายงานด้านนอกตลอด
ซึ่งงานที่ผมรับไม่ได้เป็นออนไลน์ทั้งสิ้นขอรับ ก่อนจะมีลูกดำเนินการในแวดวงสุดกำลัง ทำพิธีกร ทำอีเว้นท์ แต่ว่าเพียงพอมีลูกความพอใจพวกเราเปลี่ยนแปลงพวกเรารู้สึกว่าพวกเราต้องการจะมองลูกเพิ่มมากขึ้นเลยเลือกที่จะรับงานมากยิ่งขึ้น ไม่ยอมรับบางงาน
ยกตัวอย่างเช่น ผมจะดำเนินการงานเลี้ยงวันสงกรานต์ที่ผมทำมา 12 ปี แล้วทำอย่างมากถ่วงมากมาย เนื่องจากว่าวันสงกรานต์มี 3 วัน แต่ว่างานเลี้ยงพวกเรามี 7 วันก็ปิดตำนานไปเลยครับผม ที่ปิดเนื่องจากในตอนนั้นภรรยาท้องเพราะเหตุว่าในช่วงเวลาที่เขายังไม่ท้องเขาก็ไปบันเทิงใจกับพวกเรา
แล้วถ้าเกิดภรรยาท้องแล้วพวกเรายังไปสนุกกลับมาพวกเราไม่สนุกแน่ด้วยเหตุว่ามันจะต้องทำตั้ง 7 วัน ที่พวกเราจำต้องปิดด้วยเหตุว่างานนี้ ที่พวกเราทำเป็นเป็นงานที่สนุกสนานมากมีฉีดน้ำ ผู้หญิง ปาร์ตี้สนุก ซึ่งเขาไปกับพวกเราทุกปีเขาก็จะมีจินตนาการว่าสนุกสนานขนาดไหน
แต่ว่าตัวเขาท้องจำเป็นต้องนั่งเก้าอี้โยกมองเวลาคอยพวกเราว่าเมื่อไรจะกลับมาพวกเราก็ไม่สนุกแล้ว มีความรู้สึกว่าภรรยาเขาขี้หึงเกินไป หรือ สงสัยอย่างงั้นถูกแล้ว ดีเจเพชรจ้าเขาถูกต้องแล้ว จำต้องเรียกว่าเขาอ่านเกมส์ขาดอยู่แล้ว แต่ว่าตัวเราก็เชื่อใจได้ครับ แม้กระนั้นด้วยสภาพแวดล้อมที่เบิกบานที่พวกเราไปดำเนินงาน
เขาก็ไม่อยากที่จะให้ผู้หญิงมาคุยกับพวกเราเลยมายุ่งกับพวกเราเลย พูดได้ไหมว่า เพชรจ้าเป็นคนกลัวเมีย ดีเจเพชรจ้ากลัวครับผม กลัวแบบขีดสุดเลย เรียกว่าศูนย์เสียความเป็นตัวของตัวเองไป 80 เปอร์เซ็นต์เลย
เนื่องจากจำเป็นต้องเริ่มจากในเวลาที่เขาท้องก่อนพวกเราไม่ต้องการให้เขามีโมเมนต์ที่เครียด เพียงพอพวกเราทำอย่างนั้นไปโดยประมาณ 9 เดือน พวกเราเริ่มคุ้นชินแล้ว ถ้าเกิดไม่เห็นภาพครับ อย่างพวกเราแต่งงานกันใหม่ๆ เรานอนดูโทรทัศน์ร่วมกันแล้วภรรยาเราหิวน้ำเราก็จะกล่าวว่าลุกไปหยิบเลยเอาขนมมาเผื่อด้วยนะ
แต่ว่าพอเขาท้องแล้วเขาบอกว่าหิวน้ำเราพูดแบบเดิมไม่ได้แล้วครับผม พอเขาท้องเราก็ต้องดูแล เราก็จำเป็นต้องเดินลงไปหยิบแล้วเขาก็ไลน์ลงมา ว่าต้มข้าวต้มขึ้นมาด้วยนะ เราก็ทำอยู่อย่างงี้เก้าเดือน พอคลอดออกมาก็เป็นเหมือนเดิม แล้วนี้มีลูกก็ผ่านมา 3 ปีทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม
ในช่วงเวลานี้พวกเราก็มีเจ้านายคนใหม่เป็นไทก้า เราก็แปลงเป็นข้ารับใช้ภรรยารวมทั้งข้ารับใช้ลูกไปอย่างถาวรครับ เดี๋ยวนี้ไทก้า ก็ขวบสองเดือนครับ รู้ข่าวว่าเริ่มแสบพอพูดได้ คือ ถอดแบบป๊ะป๋าได้เลยไหม ดีเจเพชรจ้าเขาเปลี่ยนลุคเลยนะครับ จากเด็กที่อ้อแอ้ๆ พอพูดได้ปุ๊บ
เขาเป็นราวกับเด็กอีกคนหนึ่งเลยเพราะเขาบอกความต้องการของเขาออกมาชัดเจนมาก อย่างปัจจุบันไปว่ายน้ำแล้วไปพบน้องผู้หญิงหมวยๆ น่าจะโตกว่าเขาสักสองขวบ ไทก้าเขินแล้ว หลังจากนั้นก็แอบดูตลอด พวกเราก็พิจารณาอาการลูกเราแล้วเขาก็บอกเราว่าป๊าชวนพี่คนสวยมาเล่นตรงนี้หน่อย (หัวเราะ)
และที่ร้านสุกี้ไทก้า นั่งทานข้าวอยู่แล้วพึ่งซื้อลูกโป่งมาแล้วไปปิ๊งผู้หญิงที่เขาไปกินสุกี้กับพ่อเขาอยู่ไทก้า ก็ให้เราเอาลูกโป่งไปให้พี่สาวหน่อยแล้ว ดีเจเพชรจ้าจำต้องถือลูกโป่งเดินเอาไปให้เขา แล้วบอกว่าคุณพี่ครับลูกชายผมฝากมาให้ (หัวเราะ) รีวิวหนัง
ขอย้อนกลับมาถามหัวข้อนี้ดีมากกว่ารู้มาว่า เพชรจ้าเชื่อว่า ไทก้าคือน้องกุมาร
ดีเจเพชรจ้าที่ผมเคยเลี้ยงเอาไว้แทบ 9 ปี ก่อนหน้านั้นพ่อเลี้ยงมาราวๆ 10 ปี เพราะเหตุว่าป๊ะป๋าของผมเป็นเหมือนเซียนพระ มีพระเยอะแยะ ของขลัง สายมู แต่ผมเป็นคนไม่เชื่อเลย
เนื่องจากผมคลุกคลีอยู่กับพ่อมามาก เพราะเหตุไรป๊ะป๋าจะต้องมาห้อยพระเยอะ เพราะเหตุใดวุ่นวายจัง ผมก็ไม่เคยใส่อะไรเลยจนถึงผมพบผีหลอกที่บ้านตอนโตแล้วครับผม
บ้านข้างหลังที่พบเป็นบ้านก่อนข้างหลังที่อยู่ปัจจุบันหมายถึงพวกเราไปอยู่ในบ้านในขณะนั้นก็ยังไม่มีเครื่องเรือนอะไร ตอนที่พวกเราเข้าไปเป็นช่วงๆ เพล้โพล้พวกเราก็ยืนมองว่าพวกเราจะติดม่านอย่างไรที่ไหนพวกเราก็คิดว่าเสมือนมีคนใดซุ่มมองพวกเราอยู่หมายถึงบ้านเราเป็นกระจกหมดเลย
ขณะนั้นถ้าเกิดยืนอยู่กลางบ้านพวกเราก็จะเห็นหมด พอเพียงเราหันไปเราจะมองเห็นเสมือนมีอะไรวิ่งตัดกระจกไปเราก็คนใดมาอยู่ในรอบๆ รั้วบ้านเรา เราก็เลยคิดกลับไปเรื่องผีหน่อย หรือ จะเป็นผี พวกเราก็คิดในใจว่าหากเป็นผีก็ออกมาให้พวกเราได้มองเห็นอีกรอบแล้วกัน
สักพักก็มาอีกแต่ว่าเป็นอีกมุมหนึ่งสรุปวันนั้นตัดผมสามครั้งผมก็สตาร์ทรถกลับเลย และจากนั้นก็ไปนอนบ้านพี่ชายก่อน แล้วเพียงพอทำใจได้ก็กลับมานอนบ้านเกิดเมืองนอน และก็โดนอีกหนักกว่าเดิมพวกเราจัดรายการวิทยุเสร็จสองนาฬิกาเราก็กลับมาบ้านเอาของกินให้สุนัขพาสุนัขเข้าบ้านเสร็จแล้ว เสียงสัญญาณกันลักขโมยรถยนต์ผมก็ดังขึ้น
พวกเราก็อะไรรถยนต์มาร้องอะไรตอนสามนาฬิกา ในบ้านที่ยังไร้คนย้ายเข้ามาอยู่พวกเราก็ออกไปดูก็มีแมวพวกเราก็กดรีโมทมันก็ไม่ดับ สุนัขของพวกเราก็เห่าความไม่มีตัวตนหน้าบ้าน เราเป็นเลี้ยงสุนัขมาตั้งนานไม่เคยเห่าแล้วมาเห่าอะไรช่วงนี้สามนาฬิกากว่า เราก็เลยใจดีสู้เสือขึ้นรถไปสตาร์ทแล้วดับรถยนต์เสียงสัญญาณก็ดับไป
ระหว่างที่ลากสุนัขเข้าบ้านพวกเราก็นึกในใจถ้าเกิดเป็นผีจริงๆ มาให้มองเห็นอีกครั้ง พอเพียงผมปลดปล่อยสายสุนัขที่ลากไปมันก็วิ่งไปเห่าที่เดิมอีกในความว่างพวกเราก็นึกในใจรถยนต์อย่าร้องนะ ก็ร้องขึ้นมาอีก เสมือนหนังผีเลย พวกเราก็รู้สึกแบบเอาแล้วมาแล้ว
แต่ว่าวันนี้พวกเรากลับมาบ้านแล้วอย่างไร พวกเราก็จะต้องนอนก็รีบเข้าบ้านลากสุนัขเข้ากรงในเวลานั้นพวกเราเริ่มเครียดล่ะ พวกเราก็เข้าไปห้องนอนขณะนั้นเป็น หูได้ยินอะไรชัดไปหมดได้ยินเสียงคนกำลังเดินมันหลอนมากมายจนกระทั่งจุดสุดยอด
จนถึงพวกเรามีความคิดว่านอนมิได้แล้วคอยถึงห้านาฬิกาแล้วหลังจากนั้นก็สตาร์ทรถยนต์ออกไป หาบิดา เขาก็กล่าวว่าพวกเราพบผีมาใช่ไหมเพราะเหตุว่าเขาเลี้ยงพวกเรามาเขาจะทราบหมด ให้ใส่พระไม่ใส่ ให้ไหว้พระไม่ไหว้ แล้ววันนี้มาขอพระใส่
เขาก็บอกพวกเราว่าหากพบผีเอาพระไปไม่ช่วย แต่ว่าเอากุมารไปไล่ ผมก็ได้กุมารก้ามา พอเพียงพวกเราได้มาก็จำต้องไปจัดวิทยุก่อนและก็ไม่รู้เรื่องไสยเวทเลยพวกเราก็เลยเข้าอินเตอร์เน็ตเลี้ยงกุมารจะต้องทำเช่นไร เพียงพอพวกเราจัดรายการเป็นระเบียบสองนาฬิกาอย่างเดิม
พวกเราก็ลงมากดเงินแล้วตู้มันดูดบัตรไปขอความปรานีติดต่อแบงค์ ในขณะนั้นเงินพวกเราก็ไม่เหลือแล้ว พวกเราก็แบบทำเช่นไรก็รำลึกถึงว่าพวกเราเพิ่งจะได้กุมารมาหากของหายหรืออะไรก็ช่วยพวกเราได้ (อันนี้เป็นความเชื่อแต่ละคนครับผม) พวกเราก็คัดออกมาเลยแล้ว
กล่าวว่าถ้าเกิดต้องการที่จะให้เชื่อเอาบัตรออกมาให้หน่อยพวกเราเพิ่งพูดไปเมื่อกี้เลยบัตรที่โดนดูดเข้าไป กระดอนออกมาพวกเราสะดุ้งมากมาย แล้วทีนี้คือ บ้านพวกเรามีผีเอาผีมาเลี้ยงอีกพวกเราก็ขับขี่รถกลับไปอยู่บ้านมาเลยต่อจากนั้นก็ไม่ได้พบอะไรอีกเลย
ดีเจเพชรจ้าแม้กระนั้นมาถามคำถามว่า กุมารก้า มีส่วนเชื่อมโยงกับไทก้า อย่างไรดีมากยิ่งกว่าหมายถึงบิดาของผมมีลูกห้าคนผมเป็นคนในที่สุด แล้วทีนี้คือเข้าอยู่ห้องดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาล แล้วผมถ่ายรายการมาเป็นคนท้ายที่สุดแล้ว
ผมกำลังจะเข้าไปหาบิดาแล้วมีคนโทรเข้ามาเป็นหมอดูที่ผมเคยดูชะตากับแกไปแล้วเขาพูดว่ากำลังนั่งสมาธิอยู่แล้วจู่ๆ มีกุมารมาเข้านิมิตเขา กุมารให้เขามาบอกว่าเขากำลังจะออกเดินทางไปกำเนิดแล้ว จะให้เขาไปกำเนิดเลย หรือ ให้เขารอมาเป็นลูกผม
(เนื่องจากว่ากุมารเป็นของบิดาถ้าหากบิดาเสียไปเขาก็จะหมดหน้าครั้งแล้วไปกำเนิด) ผมก็พูดว่าถ้าเช่นนั้นให้เขารอมากำเนิดเป็นลูกผม ซึ่งเขากล่าวว่ามั่นอกมั่นใจได้เลยว่าลูกคนแรกเป็นผู้ชายมั่นอกมั่นใจได้เลยว่าเป็นก้า แล้วผมก็ถามเมียก่อนนะว่า เอาไหมถ้าเกิดเป็นอย่างนี้ ปรมาณู พูดว่าโอเคก็ได้
แล้วพอเพียงผมเดินไปคุยกับบิดาข้างหูแล้วเขาก็ไปเลย แล้วพวกเราก็มาลุ้นในเวลาที่พวกเรามีลูกว่าถ้าเกิดเป็นลูกชายมันจะต้องเป็นไอ้ก้าแน่เลย เลยควรจะมีคำว่า ก้า เพื่อนึกถึงเขาเลยมาเป็น ไทก้า แม้กระนั้นปัจจุบันก็มีเหตุการณ์พา ไทก้าไปหากุมาร ดีเจเพชรจ้าอันนี้ก็ขบขันเป็น บ้านที่มีผี เพียงพอผมแต่งงานก็ไม่ได้อยู่เลย 4ปี
แม้กระนั้นพวกเราก็เอาไว้เก็บของแล้ววันหนึ่งพวกเราก็พา ไทก้าไปเล่นที่บ้านข้างหลังนั้นและก็ไปล้วงตรงหัวเตียงแล้ว ไปเจอกุมารเราเก็บไว้ตรงหัวเตียง พวกเราก็ถาม ไทก้าว่าทราบไหมว่าใครกันแน่ เขาก็กล่าวว่า ก้า ยังไงและก็เดินไปเลย พวกเราเป็นช็อคเลย ภาพมันฟ้อง
