ขุนบันลือ หม่ำ จ๊กมก ซูเปอร์สตาร์ตลกมีชื่อของเมืองไทย กลับมาเล่นหนังเองกำกับเองอีกที

ขุนบันลือ

ขุนบันลือ หม่ำ จ๊กมก ซูเปอร์สตาร์ขำขันมีชื่อเสียงของประเทศไทย

ขุนบันลือ กลับมาเล่นหนังเองควบคุมเองอีกรอบภายหลังจากดูแลภาพยนตร์เรื่องในที่สุดเป็น ทาสรักอสูร เมื่อ 4 ปีกลาย โดยในหัวข้อนี้เป็นหนังพีเรียดสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น หม่ำ จ๊กมกรับบทเป็นขุนกึกก้อง

มีการผูกเรื่องให้กำเนิดที่จังหวัดเชียงราย กับกระแสข่าวโจ๊กตอนที่หนังกำลังสร้างว่า หม่ำมีภรรยาน้อยอยู่ที่จังหวัดเชียงราย (จากที่โหน่ง ชะช่าช่า ถูกใจบอกในรายการทีวี) ผู้กำกับยังบอกอีกว่า ตั้งมั่นจะสร้างภาพยนตร์ประเด็นนี้มา 7 ปีแล้ว รวมทั้งต้องการที่จะให้คนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวมาเล่นกันหมด ติดที่บุตรสาวพึ่งมีลูกเลยไม่สบายมาเล่นเพียงแค่ผู้เดียว รีวิวหนัง

ผลงานจากบั้งไฟฟิล์มถ่ายรูปของดาวตลกกิน จ๊กมกที่ยังเป็นซุปตาร์สายขำขันที่ทำหนังเรียกเงินผู้ชมได้เสมอ เปิดตัวตอนส่งท้ายท้ายปี 2561 ตลอดมาจนกระทั่งตอนต้นปี โดยบั้งไฟฟิล์มถ่ายรูปมีหนังออกมาถึง 3 เรื่องในปี 2562เป็นสิ้น 3 ต่อน

ขุนบันลือ

บอร์ดี้การ์ดหน้าหัก แล้วก็ประเด็นนี้ ที่หากว่าบทในเรื่องจะมองเป็นงานด้นมุกสดกันหน้ากองระหว่างศิลปินตลกทั้งหลายแหล่

มากยิ่งกว่าจะมีบทเป็นการเป็นงาน แม้กระนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับแฟนหนังของกิน ที่อยากเข้ามาเสพความรื่นเริงใจล้วนๆจากหนังอยู่แล้ว เหมือนกับงานกำกับก่อนหน้าอย่างไตรภาคแหยม ยโสธร หรือส่ม ภัค เสี่ยน

ข้างหลังๆจำต้องพูดว่าเปลี่ยนเป็นกิมมิคประจำตัวของตลกขบขันกลุ่มสามช่าไปแล้วกับเรื่องซุกเด็ก มีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ชนบท นอกเหนือจาก เท่ง โหน่ง แล้ว หม่ำเองก็มีหัวข้อเรื่อง ‘ผู้ที่จังหวัดเชียงราย’ ที่กลุ่มสามช่าถูกใจเอามาอำกันใน ชิงร้อยชิงล้าน

ขุนบันลือ

กระทั่งเปลี่ยนมาเป็นไอเดียหนังคอเมดี้ครอบครัวในลักษณะของพีเรียดย้อนยุค โดย  นี้ หม่ำแกเหมาคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวมาเล่นหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเมียในชีวิตจริง มด (เอ็นดู วงษ์คำเหลา) หรือ น้องไม่กซ์ (เพทาย วงษ์คำเหลา) ลูกชายคนเล็กที่หลายๆคนอาจเริ่มผ่านตาผลงานแร็พเปอร์อีสานมาพักหนึ่งแล้ว

เว้นเสียแต่คนภายในบ้านแล้ว ยังมีดาราตลกขบขันเข้ามาเสริมกองทัพความฮาได้น่าดึงดูดเลย ไม่ว่าจะเป็น โรเบิร์ต สายควัน, สุนารี ราชสีมา, นก เชิญยิ้ม แล้วก็ ปลาคราฟ เชิญยิ้ม เรียกว่าได้มองขุนบันลือ เสมือนได้ดูก่อนยการชิงร้อยฯ ผสมกับก่อนบ่ายคลายเครียด มายำรวมกันบนโรง

สำหรับเรื่องราวของ นั้น เป็นเหตุที่เกิดใน พ.ศ. 2447 ช่วงที่บ้านเรือนกำลังโต้แย้งเรื่องการปลดแอกสัญญาทาส ขุนบันลือ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) ได้รับมอบหมายให้ไปราชการที่ ไบค์แมน2

เมืองเชียงราย แต่ขุนโด่งดังเอง กลับกลุ้มใจ เนื่องจากถูก มด ข้าทาสหญิงที่ขุนเลื่องลือแอบมี ความสัมพันธ์ด้วยจับได้ว่าท่านขุนแอบซุก ใครบางคนอย่างลับๆไว้ที่เมืองจังหวัดเชียงรายมาก่อน ขณะเดียวกันก็มีเรื่องราวของเพื่อนรักของท่านขุน

ที่พาลูกสาวแล้วก็ลูกชายมาฝากให้ช่วยเลี้ยงดูเพราะเหตุว่าจำต้องไปราชการที่ต่างถิ่น ซึ่งทั้งคู่ก็กลับแอบปิ๊งบรรดาข้าทาสในเรือนของท่านขุน ความเกี่ยวเนื่องระหว่างชนชั้นของคู่ต่างๆที่เกิดขึ้น จะหาผลสรุปยังไง ท่ามกลางความรักที่วุ่นวายอย่างนี้

ด้วยการตัวคราวเซอร์หนัง มีจุดน่าดึงดูดตรงที่มาเซตฉากเป็นแบบย้อนยุค แอบให้ความรู้ความเข้าใจสึกควันหลงจาก บุปเพสันนิวาส หน่อยๆแม้กระนั้นเส้นเรื่องของแต่ละนักแสดงมิได้มีอะไรที่หนังถือมาขยายอะไรแบบเป็นจริงเป็นจัง หนังมิได้จุดโฟกัสไปที่ความเกี่ยวพันของ ขุนเลื่องลือ กับหญิงสาวคนไกลที่เป็นปัญหามากมายเหมือนอย่างที่คิด

แต่ว่าจะวนเวียนอยู่กับเรื่องราวในชีวิตประจำวันมากยิ่งกว่า รวมทั้งขยันปลดปล่อยมุก 5 บาท 10 บาท บวกกับความขบขันหน้าเฉยในแบบกินสไตล์มาสร้างจุดขายราวกับหนังของเอ็งเรื่องอื่นๆก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แน่ๆเกี่ยวกับความที่มีนักแสดงรับเชิญมากมายมาสร้างสีสัน นี่เป็นจุดที่ช่วยประคองหนังให้มองเพลิดเพลินได้เรื่อยตั้งแต่ตอน 20 นาทีแรก ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมองสมูทกว่าที่คิด ที่หนังดูเหมือนจะมีบรรยากาศที่ดี ไม่พากเพียรเฮฮาเหลือเกิน

อย่างไรก็แล้วแต่ เนื่องจากว่าตัวหนังมันมิได้มีเส้นเรื่องที่จะพัฒนาต่อได้เป็นชิ้นเป็นอัน มันมีแต่ชายหญิงแต่ละคู่มองเห็นหน้าจ้องตากันแว้บแรกแล้วปิ๊ง แล้วไปจบกัน หรือไม่ก็มีเงื่อนที่เกี่ยวข้องกันมาก่อนแล้ว ที่ผ่านมามองเห็นกันเดินไปเดินมาในบ้านไม่คิดอะไร แม้กระนั้นพอเพียงอยู่ๆไปก็เกิดอารมณ์ทางเพศเปลี่ยว

อารมณ์เหงา อารมณ์คัน (ฮา) ความสัมพันธ์ ของนักแสดง ที่เป็นข้ารับใช้ ในเรือนกับตัวเจ้าขุนมูลนายนั้นเลย ไม่ค่อยจะมี มากมายอย่าง ที่ควรเป็น ทั้งหนังก็มิได้เป็นจริงเป็นจังกับข้อความสำคัญ หัวข้อการเลิกทาสอีกเช่นเดียวกัน จริงๆจะต้องกล่าวว่าหนังมีพลอตซึ่งสามารถสร้างลู่ทางต่างๆเข้ามาใส่เอาไว้ข้างในเรื่องให้แข็งแรงขึ้นได้

รวมทั้งอาจครบรสมากยิ่งกว่าหนังตลกที่มาในอารมณ์ตลกคาเฟ่สมัยก่อน หลายมุก หลายเหตุการณ์มองก็รู้ว่ามาแบบด้นสด ไหลไปเรื่อยๆ ราวกับมองตลกโปกฮาคาเฟ่แผนก พ่อเทวดา เล่น เพียงตัวมุกไม่ค่อยฉีก รวมๆเลยออกจะจาง

จะมีตัดคะแนนหน่อย ตรงที่จังหวะจะ โคนไม่ค่อยดี จะไปงัด dirty joke มาใช้ซะโดยมาก ซึ่งนี่ก็เป็นเยี่ยมในสิ่ง ที่อยู่คู่หนัง กินมาตลอด พอกับหนังพชร์ แม้กระนั้นรู้เรื่องได้ว่ามันยังเวิร์กและก็เข้าถึงกลุ่มของผู้คนมองอีกกรุ๊ปนั่นแหละ

ถึงแม้ว่ามุกขำขันรวมๆ จะมองแกนๆซีดๆ แต่ว่าในช่วงท้าย หนังก็หมวด เงื่อนเข้าด้วยกันได้ดิบได้ดี ในเรื่องครอบครัว ที่จริงดูๆไป นี่เช่นเดียว กับจะเป็นหนังที่กินจัดการตนเองข้อความสำคัญ ‘คนจังหวัดเชียงราย’ ให้ชัดๆ

กับภรรยามึงเองมากยิ่งกว่า (ฮา) ซึ่งก็เป็นความ โรแมนติกแบบ กระด้างๆตามสไตล์คนขี้เขิน แบบมึงเอง ในช่วงเวลาที่น้องมิกซ์ ก็ได้ออกมาโชว์สกิลแร็พอยู่หลายซีน เพียงยังไม่ถึงกับฉายแวว เมื่อมาอยู่บน ภาพยนตร์ อย่างไรก็แล้วแต่

ในรูปภาพรวม สร้างความเพลิดเพลิน ได้ในระดับ ที่มองได้เรื่อย ไม่ทราบสึกขัดข้อง หรือเบื่อหน่าย อะไรเท่าไรนัก แล้วก็จำเป็น ต้องดูว่าจุดหนึ่งที่ถูกใจเป็นเรื่องของ การเก็บเนื้อหา ในฉาก-เสื้อผ้าหน้าผม ทำเป็นดียิ่งกว่าที่คิดอย่างยิ่งจริงๆ

Share:

Author: admins