เรื่องจริงเพิ่งจะเผย กำเนิดอะไรขึ้นกันแน่กับหนังของผู้กำกับ

เรื่องจริงเพิ่งจะเผย

เรื่องจริงเพิ่งจะเผย กำลังจะได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

เรื่องจริงเพิ่งจะเผย ในหนังจักรวาลมาร์เวลอีกที สำหรับผู้กำกับที่แทบพูดได้ว่าเป็นผู้ก่อตั้งหนังมาร์เวล ให้ไปถึงเป้าหมายมาตั้งแต่ต้นสมัย 2000s อย่าง แซม ไรมี ที่ถ้าหากไม่มีหนังสามภาค สไปเดอร์-แมน ของเขาเป็นผู้กรุยสร้างการบรรลุผล ให้กับหนังซูเปอร์ฮีโรในตอนปี 2002-2007 แล้วละก็ มาร์เวล สตูดิโอ รีวิวหนัง

ก็บางทีอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยด้วย ไรมี กำลังจะกลับมาดูแล ดอกเตอร์ สเตรนจ์ อิน มัลติเวิร์ส ออฟ แมดเนส ที่มาระบุฉายปัจจุบันอยู่ที่ 25 มี.ค. 2022 แม้กระนั้นปริศนาที่ยังค้างคาใจแฟนคลับก็คือ กำเนิดอะไรขึ้นอยู่กับ สไปเดอร์-แมน ภาค 4 ที่ถูก โซนี่ ประกาศรีเมกแบบสะเทือนขวัญแฟนคลับกันไปทั่ว

เรื่องจริงเพิ่งจะเผย

ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน แทบจะได้ถูกทำเป็นหนังออกฉายเมื่อปี 2011 โดย ไรมี นั้นประกาศชัดว่า ขอจังหวะกลับมาแก้ตัวจาก ไอ้แมงมุม 3 ที่นักวิพากษ์วิจารณ์เกลียดเอาเสียเลย

แม้ว่าจะทำรายได้รวมทั่วทั้งโลกสูงมากขึ้นจากสองภาคก่อน (แม้กระนั้นรายได้ในสหรัฐอเมริกา น้อยสุดในบรรดา 3 ภาค)

ภาค 3 ทำรายได้ทั้งโลกไป 895 ล้านเหรียญฯ สูงยิ่งกว่า ไอ้แมงมุม ที่ทำรายได้ทั่วทั้งโลกไป 821.7 ล้านเหรียญฯ และก็ ไอ้แมงมุม 2 ที่ทำรายได้ทั่วทั้งโลกไป 788.9 ล้านเหรียญฯ แม้กระนั้นในปี 2009

เมื่อก่อนที่จะติดเครื่องสร้างภาค 4 โซนี่ ก็ประกาศรีบูตตัวไอ้แมงมุมเป็นฉบับใหม่เมื่อมกราคม 2010 โดยให้ชื่อฉบับใหม่ว่า ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน โดยได้ผู้กำกับ มาร์ก เวบบ์ จากหนังรักสุดเฮิร์ท ซัมเมอร์ของฉัน 500 วัน ไม่ลืมเธอ มากำกับ (เขาไม่เคยทำหนังแอ็กชันฮีโรมาก่อนเลย)

เหตุผลสำคัญๆ ที่นักวิพากษ์วิจารณ์เกลียดชัง ก็เป็นเนื่องจากว่า ในหนังมีตัวร้ายอยู่มากเกินความจำเป็น

โดยนั้นตั้งอกตั้งใจจะให้หนังมีเพียงแค่ตัวร้ายหลักอย่าง “กรีนก๊อบลิน” คนลูก ที่เล่นบทโดย เจม อันจะเป็นการปิดสิ้นเรื่องราวสามภาค ของเพื่อนรักสหายโกรธแค้นตั้งแต่ภาคหนึ่งของ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ แล้วก็ แฮร์รี่ ออสบอร์น

แม้กระนั้นค่ายก็ต้องการ จะแออัดยัดเยียดตัวร้ายเข้าไปอีก เพื่อหนังถูกอกถูกใจเด็กๆไม่ว่าจะเป็น “เวน่อม” บทของ รวมทั้ง “แซนด์แมน” บทของ ที่ถ้าเกิดพินิจดีๆ ก็จะมีความเห็นว่าตัวร้ายสองตัวนี้ ไม่เกี่ยวกับการดำเนินเรื่องหลัก ถัดมาก็ให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่น่ายอมค่าย จนกระทั่งหนังเลอะเทอะ

แซม อยากได้สร้างภาพยนตร์ภาค 4 ในทางตนเองโดยที่จะไม่ยินยอมให้ค่าย โชนี่ มาแทรกแซงจนถึงเหลวเสมือนภาคที่แล้ว “ผมไม่ชอบใจ สไปเดอร์ แมน3 มากมายและก็ผมอยากได้สร้างภาพยนตร์ภาค 4 เพื่อเป็นฉบับที่ดี เยี่ยมที่สุดกว่าทุกภาคก่อนหน้านี้” กล่าว

เรื่องจริงเพิ่งจะเผย

โดยเขาจะสืบต่อเรื่องราวความเกี่ยวพันของ ปีเตอร์ รวมทั้ง แมร์รี่เจน ว่าจะเดินต่อไปยังไงภายหลัง พบเจอเรื่องราวมากไม่น้อยเลยทีเดียวในภาค 3 ก่อนที่จะมาดีกันในตอนสุดท้าย…แล้วก็เรื่องราวก็ค้างเติ่งอยู่นั่น

อีกเหตุผลนึง ที่ออกมาบอกถึงแรงกดดันของค่าย ที่ได้รับจาก มาเวล ซึ่งก็คือ กติกาที่จึงควรสร้างภาพยนตร์ ไอ้แมงมุม ออกมาในทุกๆ2-3 ปี

ซึ่งแม้ไม่ทำตามอย่างนั้น ก็จะเสียสิทธิ์กลับไปเป็นของมา ทำให้โช จำต้องรีบร้อนดันหนังออกมา แบบพอเป็นพิธี ยิ่งไปกว่านั้น ก็ยังเสมือนไม่ชอบใจกับปริมาณคนร้าย

ด้วยเหตุว่าต้องการจะให้ใส่ผู้แสดง “ลิซาร์ด” ที่เป็นตัวร้ายของลงไปในฉบับอีก ด้วยความเรื่องมากของค่ายก็เลยทำให้ ยอมแพ้โบกไม้โบกมือลา “ชวนพวกท่านรีบูต ไปได้เลย เนื่องจากว่าถึงอย่างไรพวกท่าน ก็คิดแผนกันไว้หมดอยู่แล้ว” เขากล่าว

ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน อีกทั้ง 2 ภาคใหม่ในปี 2012 รวมทั้ง 2014 ได้ เจมส์ แวนเดอร์บิลต์ มาเขียนบท และก็ได้ มาร์ก เวบบ์ มากำกับ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เล่นบทเป็นสไปเดอร์แมน แล้วก็ เอมมา สโตน เล่นบทเป็นเกว็น สเตซี รักแรกพบของปีเตอร์ (ในขณะนั้นดาราหนังทั้งสองเป็นคนรักกันจริงๆ)

หนังล้มเหลวอีกทั้งในทางข้อวิจารณ์รวมทั้งรายได้ที่ลดน้อยลงมากมาย (รายได้รวมทั่วทั้งโลก 757 รวมทั้ง 708 ล้านเหรียญฯ เป็นลำดับ) ในที่สุด โชนิ ก็จำต้องยอมรีบูทหนังใหม่อีกครั้งเพื่อนักแสดงปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ได้กลับไปอยู่บ้านไปร่วมกลุ่ม อเวนเจอร์ส ในจักรวาลมาร์เวลท้ายที่สุด จะกลับมาร่วม

Share:

Author: admins