9ผู้กำกับ ขึ้นชื่อว่าการถ่ายหนัง ถึงแม้ว่าจะผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ร่วมในกองถ่ายก็ทราบดีว่านี่เป็น “งานใหญ่’ ที่จะต้องมีการวางเป้าหมายล่วงหน้าเป็นปี
9ผู้กำกับ ใช้คณะทำงานนับร้อยชีวิต รวมทั้งทุนสร้างหลายล้านบาท ยิ่งหากหนังฮอลลีวูดนี่หลักหลายพันล้านบาทเลยในฐานะผู้ชมพวกเราก็ได้ดูหนังที่เสร็จเสร็จสมบูรณ์บนจอด้วยความรื่นเริง แต่ว่าหารู้ไม่ว่าหนังที่พวกเรามองนั้นบางเรื่องกว่าจะเสร็จมาได้
คณะทำงานจำเป็นต้องเผชิญปัญหาสารพัดอีกทั้งเล็กทั้งยังใหญ่ เพราะว่ามันเป็นการทำงานที่มากคนก็ยิ่งมากเรื่องมากความ ความคิดเห็นแย้งกันบ้าง คณะทำงานขัดแย้งบ้าง หรือจำเป็นต้องพบกับดาราอีหรูหราทำตัวเรื่องมากบ้าง หรือบางเรื่องถ่ายทำไปก็ยังเขียนบทไปด้วยก็มี
ซึ่งปัญหาสารพัดนั้นผู้ที่มีบทบาทรับผิดชอบสำหรับในการสะสางปัญหาพวกนั้นโดยตรงก็คือผู้กำกับ ที่พวกเราจับมาเล่านี่ก็คือ 9 เรื่องที่ 9 ผู้กำกับจำเป็นต้องพบเจอตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ มีตั้งแม้กระนั้นปัญหาเล็กๆน้อยๆอย่าง เหตุติดขัดด้านเทคนิคบ้าง คณะทำงานเจ็บ ไปจนกระทั่งเคสหนักสุดก็คือมีการเสียชีวิตในกองถ่าย ตามไปอ่านกันเลยนะครับ ว่าผู้กำกับดวงโชคร้ายกลุ่มนี้มีคนใดบ้าง
สำหรับผู้กำกับแมทธิว วอห์น นี่รีชูได้ว่าเป็นผู้กำกับที่เคยผ่านงานหินมาแล้ว เขาเคยถ่ายทำถ่ายหนัง เอ็กเมน จนถึงปิดกล้องรวมทั้งสามารถออกฉายได้ภายในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 10 เดือนมาแล้ว ส่วนหนึ่งส่วนใดก็เป็นเพราะว่าเทคโนโลยีในตอนนี้ที่ดีขึ้นไปๆมาๆก ช่วยทำให้การถ่ายทำสบายเร็วทันใจขึ้นอย่างยิ่ง ซึ่งแมทธิวก็เป็นผู้กำกับที่เชื่อใจกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีหน้าที่ในกองถ่ายอย่างยิ่ง
แม้กระนั้นรวมทั้งเกิดเหตุการณ์ไม่ได้นึกฝันในหนัง คิงแมน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกสำหรับในการถ่ายทำ ฉากแรกที่คณะทำงานถ่ายทำกันก็คือฉากฝึกฝนใต้น้ำ แน่ๆว่าการถ่ายทำใต้น้ำเป็นอะไรที่ยุ่งยากมากมาย ทำให้คณะทำงานจำเป็นต้องงานแผนล่วงหน้ากันอย่างรัดกุม และก็มีการทดลองกันอย่างเข้มงวดแล้วก่อนเริ่มถ่ายทำจริง รีวิวหนัง
ในฉากนี้ทั้งทีมงานและก็ผู้แสดงดำเนินการกันบนฐานกว้างที่ควบคุมระดับในแนวตั้งด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เป็นแนวทางการที่สบายมากมายเนื่องจากว่าฐานจะสามารถขยับขึ้นลงในน้ำได้ในทุกระดับความลึกที่อยาก แม้กระนั้นแล้วระบบคอมพิวเตอร์ก็กำเนิดรวนซะงั้น ฐานที่รองรับคณะทำงานแล้วก็ผู้แสดงอีกทั้งกรุ๊ปก็ยุบลงทันควัน ผลก็คือทั้งทีมงานและก็ผู้แสดงจมอยู่ใต้น้ำลึก 6 เมตร
แมทธิว วอห์น ย้อนเล่าเรื่องราวในวันนั้นว่า “กล้องถ่ายรูปหลายตัว คณะทำงานเสียง ทุกคนเปียกน้ำกันหมด ขวัญหายกัน ผู้ที่เหลือก็กระโจนลงไปในน้ำช่วยสหายๆออกมา ที่ผมมองเห็นเป็นเวลานี้บรรดาดาราหนังไมได้แอ็กติ้งอะไรเลย พวกเขาตกอกตกใจกันจริงๆมันเกิดเรื่องแย่มากสำหรับในการเริ่มถ่ายทำวันแรกแบบงี้”
แม้กระนั้นก็ยังดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บในเรื่องนี้ แล้วการถ่ายทำในวันต่อๆไปก็ราบรื่นดี
สำหรับคนชอบดูหนังฮอลลีวูดแล้ว เมื่อได้ยินชื่อ พอล ดับเบิ้ลยู.เอส. แอนเดอร์สัน (Paul W.S. Anderson) ก็พอเพียงจะเข้าใจดีว่าผลงานของเขาชอบหวังผลทางรายได้เป็นหลัก รวมทั้งชอบเป็นหนังที่ปรับเปลี่ยนมาจากวิดีโอเกมอย่าง Mortal Kombat, Resident Evil รวมทั้งปัจจุบันก็ Monster Hunter ส่วนประสิทธิภาพก็ถ้าอย่างนั้นๆอย่าไปคาดหมายอะไรมากมาย ถึงกระนั้นผู้ครอบครองสตูดิโอก็ถูกใจกับผลงานของแอนเดอร์สัน เนื่องจากเขาสามารถปิดกล้องได้ในงบประมาณที่มีเหตุผลรวมทั้งหนังก็ได้กำไรได้ในระดับที่ถูกใจ โน่นก็เลยทำให้เขามีงานดูแลออกมาโดยตลอด แม้ว่าจะอยู่ในแวดวงมาตั้งแต่สมัย 90s แล้ว จากไอเดียเวิร์กชอป
ส่วนผลงานที่สร้างชื่อให้กับแอนเดอร์สันมากมายสุดก็อาจหนีไม่พ้นแฟรนไชส์ Resident Evil ที่เขาดูแลไป 4 ใน 6 ภาค แล้วก็ภาคที่พวกเราจะเอ๋ยถึงก็คือภาคที่ 6 ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ ซึ่งแอนเดอร์สันจะต้องพบงานยากตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำรวมทั้งจะเป็นวันทีเขาไม่มีทางลืมไปทั้งชีวิต เมื่อโอลิเวีย แจ็กสัน สตันท์หญิงที่รับบทบาทแทน ไม่ลลา โจโอ้อวดวิช นางเอกของเรื่องรวมทั้งศรีเมียของแอนเดอร์สันเอง ในฉากนี้แจ็กสันจำเป็นที่จะต้องแสดงฉากขี่จักรยานยนต์โลดโผน แต่ว่าแล้วหลังจากนั้นก็เกิดเหตุบกพร่องด้านเทคนิค รถมอเตอร์ไซค์ที่คุณขี่นั้นพุ่งชนกับเครนกล้องถ่ายรูปเข้าอย่างจัง ทำให้คุณสลบแล้วก็อยู่ในรุนแรงนานถึง 2 อาทิตย์
รายการบาดเจ็บอย่างรุนแรงของ โอลิเวีย แจ็กสันมีดังนี้ ผิวหนังบนบริเวณใบหน้าถลอกปอกเปิกจนถึงหลุดออก, กระดูกบริเวณใบหน้าแตก, สมองเจ็บ, เส้นเลือดแดงที่คอตันอย่างหนัก, ซี่โครงหัก, แขนซ้ายใช้การไม่ได้ถาวรจนกระทั่งแพทย์จะต้องตัดทิ้ง และก็อีกมากมาย อุบัติเหตุของ โอลิเวีย แจ็กสัน ออกจะเป็นข่าวใหญ่ในแวดวงหนัง ถ้าเกิดคนใดกันติดตามข่าวสารแวดวงหนังบางครั้งอาจจะเคยผ่านตาคดีของคุณมาบ้างแล้ว เนื่องจากว่าคุณฟ้องร้องคดีค่าปรับเหมาหมดอีกทั้งสตูดิโอผู้ผลิตหนัง รวมถึงเพศผู้ดูแล พอล ดับเบิ้ลยู.เอส. แอนเดอร์สัน ด้วย ในฐานะผู้อำนวยการผลิตประเด็นนี้
คดีออกจะกินเวลานับเป็นเวลาหลายปี มาจบเมื่อปีที่ผ่านมานี่เอง เมื่อศาลวินิจฉัยให้กลุ่มผู้อำนวยการผลิตมีความผิดจริงในข้อกล่าวหา “ให้ความเอาใจใส่กับทุนสร้างมากยิ่งกว่าที่จะพิจารณาถึงความปลอดภัย” แจ็กสันอ้างถึงว่าคณะทำงานขอให้คุณแสดงฉากหวาดเสียวนี้ท่ามกลางสภาพภูมิอากาศที่ชั่วร้าย
โน่นเป็นสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกสำหรับเพื่อการถ่ายทำ แม้กระนั้นที่คนจำนวนไม่น้อยยังไม่เคยรู้ก็คือ นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุเดียวในกองถ่าย ในช่วงท้ายของการถ่ายทำ ก็กำเนิดอีกหนึ่งอุบัติเหตุร้ายแรง รอบนี้ถึงกับตายเลย เกิดเหตุกับ ริคาร์โด คอร์เนเลียส ร่างของเขาถูกบดขยี้เสียชีวิตคาที่ข้างในรถยนต์ฮัมวี นับเป็นอุบัติเหตุครั้งที่ 2 ในกองถ่ายนี้ ในวันที่เกือบปิดกล้องอยู่แล้ว
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น กองถ่ายหนังเป็นงานที่ใช้หลายท่าน บางกองบางทีอาจจะสูงถึงพันคน การที่ข้าราชการ หรือดาราบางบุคคลบางทีอาจจะขัดข้องปัญหาไม่สามารถที่จะมาปฏิบัติงานได้ในวันแรกที่ถ่ายทำ ก็เกิดเรื่องซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แม้กระนั้นจำเป็นต้องไม่ใช่ “ผู้กำกับ”สิ เรื่องแบบงี้ก็มีด้วยครับผม ในกองถ่าย Jane Got A Gun หนังคาวบอยขายชื่อเสียง ที่นาตาลี พอร์ตแมน เมื่อปี (2015) ที่เกิดเรื่องนึกไม่ถึง เมื่อวันถ่ายทำกลับไม่มีเงาของ ลินน์ แรมเซย์ ผู้กำกับหญิงที่สร้างชื่อมาจาก We Need to Talk About Kevin หนังมากมายรางวัลปี 2011
ก็ปรากฏว่าในวันแรกนั้น ดารามากันพร้อมหน้าพร้อมตา คณะทำงานพร้อม จนแล้วจนรอด ลินน์ แรมเซย์ ก็ไม่มีวี่แววจะแสดงตัวมา กลุ่มผู้อำนวยการผลิตก็เลยจำต้องขจัดปัญหาเฉพาะหน้าเป็นการด่วน ระหว่างนั้นก็ปลดปล่อยให้บรรดาผู้แสดงฝึกซ้อมบทกันไปพลางๆก่อน แล้ววันถัดมาเขาก็ได้ตัว เกวิน โอ คอนเนอร์ ผู้กำกับฝีมือยอดเยี่ยมไม่น้อยหน้า ลินน์ แรมเซย์ เลยล่ะ เคยส่งผลงานเด่นๆ
ส่วนปัจจัยที่ลินน์ แรมเซย์ อ้างถึงการไม่มาดำเนินการก็เป็นเหตุผลสวยสดงดงามยอดเยี่ยมได้รับความนิยม “ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สำหรับการดำเนินการกับสตูดิโอมีความขัดแย้ง” แม้กระนั้นทางสตูดิโอกลับอ้างเหตุผลอีกปิ้งว่า ลินน์ แรมเซย์ นั้นคุณเมาแล้วก็ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพกับดาราหนังแล้วก็คณะทำงาน แปลงเป็นดราม่ายืดยาวเลยนับจากนั้น
ทั้งสองฝ่ายก็จำต้องกลุ่มกฏหมายฟ้องร้องคดีกันไป ส่วนกองถ่ายก็จำต้องเดินหน้าถัดไป แต่ว่าก็ยังมีดราม่าในกองถ่ายอีกจนได้ เมื่อ จูด ลอว์ (Jude Law) กล่าวถึงว่าไม่อยากดำเนินงานกับผู้กำกับ เกวิน โอ คอนเนอร์ เขาเซ็นสัญญาแสดงหนังประเด็นนี้เพราะว่าต้องการจะร่วมงานกับ ลินน์ แรมเซย์ แค่นั้น เมื่อลินน์ไม่กลับมา เขาก็ไม่ขอร่วมงานด้วย ยัง ยังไม่จบเท่านั้น ดาริอุส คอนด์จี (Darius Khondji) ผู้กำกับภาพระดับตำนานก็ขอโบกไม้โบกมือลาไปอีกคน
ข้างหลังลินน์ แรมเซย์ โบกไม้โบกมือลาไปได้โดยประมาณ 2 อาทิตย์ กองถ่ายถึงเริ่มกันได้อีกรอบ แม้กระนั้นก็เดินหน้าไปถึงแม้ว่ายังไม่มีดาราหนังมาแทนบทตัวร้ายของ จูด ลอว์ จนกว่า 1 เดือนผ่านไป ถึงจะได้ ยวน แม็กเกรเกอร์ เข้ามาแทนที่ในบทนี้
ถึงแม้ท้ายที่สุดหนังจะพ้นไปด้วยดี แม้กระนั้นหนังก็ไม่ประสบผลสำเร็จทั้งยังด้านรายได้แล้วก็เสียงตอบรับจากบรรดานักวิพากษ์วิจารณ์เอาเสียเลย
เป็นผู้กำกับนี่ความรับผิดชอบมากมายจริงๆนะ จำเป็นต้องทำหนังให้สำเร็จลุล่วงได้ตรงตามที่ได้มีการกำหนดการ ได้ในงบประมาณที่ตั้งไว้ และก็หนังจำเป็นที่จะต้องออกมามีคุณภาพ ผู้แสดงแล้วก็ที่คณะทำงานจะต้องไม่เป็นอันตราย อวัยวะครบ 32 ชิ้นในตอนปิดกล้อง และก็ที่สำคัญผู้กำกับควรที่จะดึงสมรรถนะผู้แสดงออกมาให้ได้มากที่สุด ตรงตามหน้าที่ที่วางไว้
ใจความสำคัญข้างหลังนี่ล่ะ ที่พวกเราจะจับมาเล่าในเรื่องที่กำเนิดกับ พอล เวอร์โฮเวน ผู้กำกับระดับตำนานในสมัย 90s เขาเป็นผู้กำกับชาวฮอลแลนด์ ที่สั่งสมกิตติศัพท์ในประเทศไว้มากพอ และจากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ฮอลลีวูด เปิดฉากด้วย Robocop (1987) แล้วก็ตามมาด้วย
และก็แปลงแนวมาเป็นหนังดราม่า-ทริลเลอร์ ระดับตำนานอย่าง Basic Instinct ในปี 1992 หนังเป็นที่อื้อฉาวอย่างยิ่งในวันที่ออกฉาย เนื่องจากได้ ชารอน สโตน นางเอกฮอลลีวูดสุดเร่าร้อนที่ในเวลานั้นอยู่ในตอนพีคสุดในอาชีพการแสดงของคุณ แล้วยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมความร้อนแรงของคุณเยอะขึ้น กับฉากสลับขาไขว่ห้าง
แล้ววันแรกในกองถ่ายที่มองไม่น่าจะคือปัญหา แต่ว่าก็ราวกับเป็นปัญหาครั้งสำคัญที่ท้าผู้กำกับมากมายประสบการณ์อย่างเวอร์โฮเวน เมื่อนางเอกสาวที่เป็นชื่อขายสินค้าเรื่องกลับให้การแสดงที่เวอร์โฮเวนนำเสนอว่า “ยังกับขอนไม้” ทำเอาเวอร์โฮเวนถึงกับเรียกกลุ่มผู้อำนวยการผลิตมาคุย ถึงกับขนาดเสนอให้เปลี่่ยนตัวผู้แสดง แม้กระนั้นหนังก็โปรโมตไปล่วงหน้าแล้วด้วย แล้วก็มีผู้ชมรอดูการจะหาคนไหนมาตอบแทนตำแหน่ง ชารอน สโตน ในวันนั้นได้ แทบจะไม่เห็น การทำงานก็เลยจำเป็นต้องเดินหน้าถัดไป
จนถึงเมื่อเลิกกองในวันนั้น เวอร์โฮเวนตกลงใจลากตัวสโตนมาคุยส่วนตัว แล้วก็ใช้วาทศิลปในแบบผู้กำกับเพื่อกระตุ้นให้คุณฮึกเหิมแล้วแงะความสามารถการแสดงออกมาให้สมกับที่เขามุ่งหวัง สำเร็จนะครับ สโตนกลับมากมายองถ่ายในวันพรุ่งนี้ ราวไปชาร์จกำลังใจกำลังกายสำหรับการดำเนินการมาสุดกำลัง คุณมากับความเชื่อมั่นสุดๆคำตอบก็คือ Basic Instinct แปลงเป็นหนังระดับตำนาน ที่บรรลุเป้าหมายในทุกด้าน ทุนสร้าง 49 ล้านเหรียญ ปัดกวาดรายได้ไป 352 ล้านเหรียญ ส่วนชารอน สโตน ได้เข้าชิงรางวัลผู้แสดงนำฝ่ายหญิงในเวทีลูกโลกทองเลยด้วย
หนังระดับมหากาพย์ก็จำเป็นต้องประสบปัญหาวิกฤตระดับมหากาพย์เหมือนกัน กับหนัง Star Wars ภาคเปิดตำนานในปี 1977 ผลงานสร้างชื่อให้กับ จอร์จ ลูคัส นั้น กองถ่ายยกพลกันไปถ่ายทำที่ประเทศตูนิเซีย โดยวางเบื้องหลังให้เป็นปลาดาวทรายทาทูอีน แม้ว่าจะมีการตรวจโลเคชันก่อนที่จะมีการยกพลมาปักหลักรวมทั้งตาม ไม่มีผู้ใดคาดหมายว่าจำเป็นต้องพบกับฝันร้าย ตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ ปัญหาเล็กใหญ่ทยอยดาหน้ามาเพิ่มความเจ็บปวดหัวให้กับ จอร์จ ลูคัส แบบต่อเนื่อง
เริ่มตั้งแต่คณะทำงานจำนวนไม่ใช่น้อยเกินปริมาณบ้านพักในตูนิเซียจะรองรับไหว คณะทำงานนิดหน่อยก็จำต้องถูกส่งไปนอนในรีสอร์ทถูกๆพอเพียงเริ่มถ่ายทำ หุ่นยนต์ที่สร้างไว้แสดง ก็กำเนิดติดขัดไม่ทำงาน พบลมพายุร้ายแรงทำให้ถ่ายทิวภาพมุมกว้าง ที่วางไว้ว่าเป็นภาพฟ้ามีดวงอาทิตย์คู่ อันเป็นเครื่องหมายของดาวทาทูอีน ก็ถ่ายมิได้ แล้วยานพาหนะต่างๆก็เปลี่ยนที่มิได้ เพราะว่ารถติดหล่มอยู่ในโคลน
เปลี่ยนเป็นว่าฉากมุมกว้างที่จะใส่พระอาทิตย์คู่ จะต้องมาถ่ายกันใน 2 อาทิตย์ให้ข้างหลัง แม้กระนั้นต่อไปคณะทำงานก็จำต้องเผชิญกับลมพายุลูกใหม่ที่ใหญ่มากยิ่งกว่าเดิมอีก เป็นปัญหาให้กับคณะทำงานและก็จอร์จ ลูคัส จำเป็นต้องรอไขปัญหากันเกือบจะทุกวี่วัน ด้วยประสบการณ์ทรามอย่างงี้ล่ะ ที่ทำให้ จอร์จ ลูคัส พูดว่าจบกันที แล้วก็เป็นเหตุผลที่ว่าเพราะเหตุไรลูคัสถึงไม่ดูแลภาคต่ออีก 2 ภาค และก็ในวันที่จอร์จ ลูคัส กลับมาดูแลตรีภาคก่อนหน้า เขาถึงระบุที่จะถ่ายทำในโรงถ่ายแล้วก็ใช้เคล็ดลับ กรีน-สกรีน แค่นั้น เพราะว่าดำเนินการแบบงี้เขาสามารถควบคุมทุกๆอย่างได้