บทคนไข้หนุ่มรูปงาม ดาราอังกฤษเรฟไฟนส์สร้างชื่อจากการเล่นละคร

บทคนไข้หนุ่มรูปงาม

บทคนไข้หนุ่มรูปงาม ประวัติศาตร์ของความรู้สึก

บทคนไข้หนุ่มรูปงาม ในหนังล่าสุดของเขาก็ เป็นหนังดราม่า แบบโลว์คีย์ ละเมียดละไม ซ้อนทับด้วยอารมณ์ความรู้สึก หลายชั้น ซาบซึ้ง กินใจ
โดยไม่มีความ โฉ่งฉ่างในการแสดงออกใด ๆ เรื่องราวอิงจากเรื่องจริงใน ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในชนบทแถบซัฟโฟล์ค ของอังกฤษ
เรฟ ไฟนส์ แสดงเป็น เบซิล บราวน์ นักขุดค้นทาง โบราณคดีสายบ้าน ๆ ที่รับงานขุดเนินเขา ประหลาดในที่ดินของ แม่ม่ายอมทุกข์ เอดิธ
พริตตี้ (แสดงได้เด่นเช่นกันโดย แครี่ มัลลิแกน) และไปเจอเข้ากับซากเรือ โบราณสมัยแองโกล-แซกซอน ที่ต่อมาถือ ว่าเป็นสมบัติ ทาง
โบราณคดีที่ สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่ง ของประวัติศาสตร์ยุโรปเบซิล

หรือตัวละครที่ แสดงโดยไฟนส์ เป็นนักขุดสมัครเล่น ที่ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็น “นักโบราณคดี” คำซึ่งดูสูงส่งและคงแก่เรียน แต่เบซิลมอง
ตัวเองเป็นเพียง ชาวบ้านที่ผูกพันกับดิน หิน ทราย ในชนบทซัฟโฟล์ค อ่านชั้นดินชั้น หินออกจากประสบการณ์ และการร่ำเรียนจากพ่อและ
ปู่ที่เป็นนักขุดเช่นกัน ถ้าสมัยนี้ก็ต้องบอกว่าเบซิลเป็น ปราชญ์ชาวบ้าน เพราะเขามีความรู้เรื่อง ทั้งเรื่องผืนดินและท้องฟ้า ดวงดาวและดารา
ศาสตร์

โดยทั้งหมดเป็น การศึกษาหาความ รู้ด้วยตัวเองโดยไม่ได้ ไปฟังสอบเข้าอ๊อกซ์ฟอร์ด หรือเคมบริดจ์ แต่อย่างใด ดาราอังกฤษ เรฟ ไฟนส์
สร้างชื่อจากการเล่นละครในอังกฤษ ก่อนจะได้บทดี ๆ ในชีวิตการแสดงภาพยนตร์หลายเรื่องตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่บทนายทหารนาซี
จอมโหดใน บทคนไข้หนุ่มรูปงามใน ที่ทำให้เขาโด่งดังในฮอลลีวูด บท โวลเดอร์มอร์ท ในบทหัวหน้าของ 007 ใน บทหนุ่มเจ้าสำราญใน
บทสามีผู้โศกเศร้าในรวมถึงบทตลกหลุด ๆ อย่างใน หรือบทอาชญากรเพี้ยนใน

บทคนไข้หนุ่มรูปงาม

ไม่ว่าจะเป็นนักดูหนังสายป๊อปหรือสายอาร์ทล้วนแต่ต้องคุ้นหน้าและชื่นชมฝีมือนักแสดงที่ผะแรกดูเหมือนจะเด่นด้วยรูปลักษณ์กายหยาบ แต่
จริง ๆ แล้วไฟนส์เป็นนักแสดง ที่พึ่งรูปร่างหน้าตาน้อยกว่าชั้น เชิงการแสดงและความ เข้าใจในบทอย่างลึกซึ้งฟ ไฟนส์ เป็นนักแสดงที่
โดยธรรมชาติแล้ว หน้าตาออกไป ทางคนชั้นสูง ทั้งรูปหน้า สำเนียงการพูดจา และบุคลิก (หรือว่านั่นก็เป็น “การแสดง” ที่ทำให้เราเชื่อ)
เพราะในบทของ เขาคือคนชั้นล่างที่มี ความลุ่มลึกใน ศาสตร์ความรู้ สำเนียงการพูดต้องเหน่อ

การวางตัวต่อหน้า นายจ้างหญิงต้อง ดูอ่อนน้อม เป็นคนประเภทรู้ที่ ทางของตัวเอง และเมื่อเจอกับ นักโบราณคดีตัวจริง จากพิพิธภัณฑ์
สถานแห่งชาติลอนดอน เบซิลก็ก้มหน้ายอมรับ บทพระรองในโครงการ ขุดค้นที่ตัวเอง เป็นผู้เริ่มต้น ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ไฟนส์ไม่ได้
“แสดง” ให้เบซิลดูเป็น ชาวบ้าน ไม่ได้ “ดัด” สำเนียงพูดให้เหน่อ ตัวละครนี้ของเขา เนียนมากในการ สวมบทเป็นชายวัยกลางคนที่รู้
ตัวว่าสถานะชาติ กำเนิดเป็นอย่างไร

มีข้อจำกัดอย่างไร แต่ในขณะเดียวกันเขา ก็เย่อหยิ่งและองอาจ

พอในประสบการณ์ และความรู้ของตัวเอง ลึกๆ เบซิลอาจจะฝันว่า ชีวิตเขาจะไปได้ไกลกว่านี้แค่ ไหนหากเขามีโอกาสได้ ร่ำเรียนและได้
เป็น “นักโบราณคดี” ตามระบบ ระเบียบจริง ๆครึ่งหลัง อาจจะเฉไฉออกนอกเรื่อง ระหว่างเบซิลกับเอดิธไปสักหน่อย เมื่อหนังเปิดตัว
ละครใหม่อีกสามตัว ได้แก่คู่สามีภรรยานักโบราณคดีจากลอนดอนที่มาร่วมขุดค้น (แสดงโดนเบน แชปลิน และ ลิลลี่ เจมส์) และญาติ
หนุ่มของเอดิธที่กำลังจะถูกเกณฑ์ไปเป็นนักบินรบ (จอห์นนี่ ฟลินน์) ประเด็นที่หนังเสริมเข้ามาในช่วงนี้

คือบทบาทของผู้หญิงในงานโบราณคดี งานที่ปกติยึดครองโดยผู้ชาย อีกทั้งยังแสดงช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อทางอารมณ์และความเปราะ
บางของประวัติศาสตร์เมื่อเงาทะมึนของสงครามแผ่ปกคลุมทุกสิ่ง เหมาะกับคนที่ชอบหนังนิ่ง ๆ ลึก ๆ และละเอียดอ่อนในความรู้สึก
คล้าย ๆ (แต่ไม่ได้อลังการเท่า) หรือหนังพีเรียดตระกูล การแสดงของสองดาราหลัก พาเราให้เฝ้าติดตามการเดินทางของมิตรภาพ
และความอ่อนไหวในใจของทั้งเบซิลและเอดิธส่วนแง่มุมทางโบราณคดี มีเรื่องให้เล่ามากมาย คร่าว ๆ คือ

บทคนไข้หนุ่มรูปงาม

หนังสร้างจากนิยายอิงประวัติศาสตร์ของจอห์น เพรสตัน ที่เล่าถึงการขุดค้นที่เรียกกันว่า ที่แถบซัฟโฟล์ค ที่มีการค้นพบซากเรือจากยุค
กลางของยุโรป เก่าแก่กว่ายุคไวกิ้ง และนับเป็นความสำเร็จทางโบราณคดีครั้งสำคัญ ทั้งเบซิล บราวน์ และเอดิธ พริตตี้ มีตัวตนจริง
ในประวัติศาสตร์และมีส่วนสำคัญในการค้นพบครั้งนี้ ดู แล้วลองดูคลิปนี้ของ ที่มีเบซิล บราวน์ ตัวจริงออกมาเล่าให้ฟังถึงการขุดค้น
ของเขา ความสัมพันธ์ของเบซิลและเอดิธ บทคนไข้หนุ่มรูปงาม

เป็นความสวยงามที่ทำให้หนังเรืองรองด้วยแสงแห่งความหวัง มิตรภาพของทั้งสองคนเชื่อมโยงกันด้วยความลุ่มหลงในมนตราแห่งอดีต
ในประวัติศาสตร์ที่ถูกฝังกลบใต้ดิน เป็นมิตรภาพที่เจืออยู่ลึก ๆ ด้วยความโศกเศร้า โหยหา อาจจะมีความเสน่หาอยู่ด้วย ส่วนหนึ่ง
เพราะตัวเอดิธเป็นแม่หม้ายที่เสียสามีและต้องเลี้ยงลูกชายคนเดียว และอีกส่วนหนึ่งคือการที่หนังบอกเราตลอดว่า สงครามโลกครั้งที่ 2
กำลังจะปะทุขึ้น

อดีตเรืองรองอันไกล โพ้นของมนุษยชาติ ที่เบซิลกำลังขุดค้น จะยังมีความหมาย อันใดเล่าเมื่อมนุษย์ กำลังเข้าสู่ภาวะ ประหัตประ
หาร เมื่อคนหนุ่มกำลัง ถูกส่งไปตาย ในสนามรบ ไม่ต่างอะไรกับซากศพ จากพันปีก่อนที่ ถูกทับถมอยู่ใน สุสานที่กลายเป็นที่ดิน
ของเอดิธ ความอยุติธรรม | รีวิวหนัง

Share:

Author: admins