พจมานสว่างคาตา “พชร์ อานนท์” แบบนิวนอร์มอลที่เราว่าเหมาะสม

พจมานสว่างคาตา

พจมานสว่างคาตา ก่อนอื่นเป็นขอบันทึกไว้ก่อนเลยนะครับผมว่านี่เป็นหนังเปิดโรงเรื่องแรกข้างหลังเมืองไทยจำเป็นต้องพบเจอกับวิกฤติโรคไวรัส COVID-19 ระบาด

พจมานสว่างคาตา รวมทั้งที่สำคัญถึงแม้พวกเราไม่บางทีอาจเอาวิธีการหรือแนวความคิดทางภาพยนตร์อะไรมายกย่องหรืออวยหนังอย่าง พจมานสว่างคาตา

ได้แบบหนังทุนสูงหรือหนังที่คาดหวังมาประเทืองปัญญาเรื่องอื่นๆแม้กระนั้นในทางตรงกันข้ามนี่เป็นหนังป้อมปราการอกมั่นใจในตัวเองทีเดียวว่าจะมาผ่อนคลายรวมทั้งนำเสียงหัวเราะกลับมาสู่ชาวไทยอีกที ซึ่งเห็นด้วยด้วยตาตนเองเลยว่างานนี้ พี่พชร์ อานนท์ แกทำเป็นจริงๆแฮะ รีวิวหนัง

พจมานสว่างคาตา

โดยเรื่องราวที่ถ้าหากเล่าแบบรู้เรื่องได้ง่ายที่สุด ซึ่งก็คือ มุกล้อเลียน (Parody) หนังเรื่อง บ้านทรายทอง นั่นเอง เพียงแค่มีเรื่องมีราวการทรยศซ้อนแผนเมื่อคุณหญิงแม่ (จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก) หญ ิงเบ้อเร่อ (เอกชัย ศรีวิชัย) และก็หญิงกะจิ๊ดริด (อาจารย์ ยิ่งศักดิ์)

รวมหัวกันฆ่าพจมาน สว่างคาตา (โก๊ะตี๋ อารามบอย) แล้วก็เอา แพนขนมเค้ก (แพนเค้ก เขมนิจ) สาวสก๊อยมาปลอมตัวหวังให้สมรสกับชายกึ่งกลาง (แน็ก ชาร์ลี ปอทเจส) เพื่อฮุบโภคทรัพย์บ้านดอกไม้ทอง แต่ว่าแล้ววิญญาณของพจมานตัวจริงก็แสดงตัวเพื่อทวงความเป็นธรรมคืน

ถึงแม้ว่าการดำเนินเรื่องรวมทั้งสไตล์การควบคุมของพี่พชร์ อานนท์ จะมิได้ทำให้ หักศอกสร้างเซอร์ไพรส์อะไรให้พวกเรามากแค่ไหน แต่ว่านี่เป็นหลักฐานเกรดเอว่าเมื่อหนังมิได้ดำเนินเรื่องหรืออุตสาหะพามันไปไกลจากความถนัดของผู้กำกับนัก

พวกเราเลยมองเห็นความเที่ยงตรงในการเล่า รวมทั้งพัฒนาการ (หรือบางครั้งอาจจะไกลเพียงแค่ ลำสาลี ก็ตาม) ที่เห็นได้ชัดเลยเป็นคราวนี้พี่พชร์ “เลือก” ใช้เฉพาะมุกที่ “ใช่” และก็ “โดน” เท่านั้น ที่สำคัญการมี บ้านทรายทองคำ เป็นราวกับพิมพ์เขียวสำหรับในการยั่วล้อรวมทั้งเอามุกทันเหตุการณ์ตามถนัดมาใส่ก็ทำให้หนังพอดีพอดี

แม้ว่าจะมีมุกแป๊กมาประปรายแต่ว่ามันก็ยังอยู่ในจำนวนที่พอดีและทำให้ มุก ฮาๆดำเนินการได้สม่ำเสมอไม่สะดุดต่างจากหนังสมัยข้างหลังที่พยายามหนีการเล่าเรื่องแบบ หอแต๋วแตก จนผิดด้านผิดทาง

ใส่ลูกเล่นและมุกอัปเดตหนักมือกระทั่งความสนุกไปไม่ถึงที่หมาย โน่นก็เพราะว่ามันมีเค้าเรื่องหลักและสูตรสำเร็จของนิยาย กรัม สุรางคนางค์ เป็นแกนหลักที่มันตั้งใจยั่วล้อ โดยเหตุนี้ไม่ว่าจะมุกเจน นุ่น โบว์ หรือ Social Distancing มันก็ยังไม่ทำให้โครงเรื่องหลักเสียไปอะไร

แล้วก็องค์ประกอบสำคัญรวมทั้งเป็นศูนย์กลางสำหรับการคิดบทเลยก็อาจจะหนีไม่พ้นดาราหนัง โดยยิ่งไปกว่านั้น 4 ดาราหลักจากหอพักตุ๊ดแตกที่ยังรับส่งมุกกันอย่างถูกคอและก็ลื่นไหล แถมโอกาสนี้ผู้กำกับอย่าง พี่พชร์ อานนท์ เองก็ยังคิดสนุกมาเล่นเป็นตัวประกอบถึง 3 หน้าที่รวมทั้งช่วยให้หนัง

พจมานสว่างคาตา

ฮาขึ้นจากแอ็กแย้งแข็งๆของพี่เขาได้อีกด้วย นับเป็นอีกก้าวที่ชาญฉลาดมากสำหรับในการประกาศความเป็นเจ้าของหนังของตนเองเว้นเสียแต่เหมาตำแหน่งออกแบบงานสร้างควบควบคุมแล้วก็เขียนบท จำพวกที่ผู้กำกับดังๆระดับโลกยังไม่กล้าทำเลยนะ

ส่วน MVP ประจำเรื่องพวกเราอาจจำเป็นต้องยกให้ แพนเค้ก เขมนิจ และก็ แน็ก ชาลี ปอทเจส มาเสริมกองทัพให้หนังมีความแปลกใหม่รวมทั้งกลืนผ่านเส้นแบ่งระหว่างชีวิตจริงนักแสดงกับเรื่องเล่าในหนังได้อย่างดีเยี่ยม โดย แพนเค้ก นอกเหนือจากการที่จะมาปรากฎตัวในฐานะแพนเค้กตัวจริงที่นักแสดงโก๊ะตี๋ไปยืมชื่อมาใช้ใน หอแต๋วแตก แล้ว คุณยังพิสูจน์ฝีมือในฐานะดาราภาพยนตร์ที่เล่นบทฮา ทะเล้นได้อย่างลื่นไหล

ส่วน ชาลี ปอทเจส ก็น่าจะได้บทที่เหมาะกับเขาที่สุดรวมทั้งเอื้อให้ท่าทางมึนๆของเขาได้สร้างเสียงหัวเราะรวมทั้งเป็นของกินสายตาให้แก่ผู้หญิงและเหล่ากระเทยไทยได้กรี๊ดกร๊าดกับมุกใต้สะดือได้หลายก๊ากทีเดียว และแน่ๆว่าเป็นธรรมเนียมของหนังแบบพชร์ อานนท์ ที่จะเชิญพวกเน็ตไอดอลมาแสดง

ซึ่งก็มีทั้งแม่ศิตางค์บัวทองที่กำลังดังรวมทั้งผลิตไวรัลมาเรื่อยหรือจะเป็นเหล่ากะเทยไอดอลทั้ง เอแคลร์ จือปาก และ นัทนิสา หรือ นัท หิ้วหวี กะเทยที่พึ่งจะมีดราม่าแกงถุงละ 200 ตอนCOVID-19 และก็คนอื่นๆก็ถูกพรีเซนเทชั่นแบบพอดี ไม่เยอะแต่ได้บทเป็นชิ้นเป็นอันรวมทั้งเด่นกว่าหนังเรื่องอื่นของผู้กำกับเอง

กล่าวโดยไม่เกินจริงเลยเป็น ก็คือหนังล้อเลียนที่กลับไปหารากเหง้าเดิมของ พี่พชร์ อานนท์ ที่ทำมาตั้งแต่ สติแตก เต็มที่โลก ไปถึง โก ซิกส์ พูดปด กะล่อน ตลบตะแลง ตอแหล

เป็นหนังขายไอเดียและเสมือนเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์เมืองไทยในแต่ละยุคเหมือนหนังหอแต๋วแตก แล้วก็ หนังพี่พชร์ อานนท์ ในสมัยหลังๆแม้กระนั้นสิ่งที่อัปเดตจริงๆเป็นการเล่าเรื่องที่ดียิ่งขึ้น มีข้อสรุปให้ตัวละครชัดเจน

ถือเป็นก้าวสำคัญเลยในการทำหนังตลกที่เริ่มเข้าพบผู้ชมหนังวงกว้าง รวมกับงานถ่ายทำที่ไม่ชุ่ยๆ แม้แต่ฉากที่ถูกถ่ายซ่อมก็ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นเท่าที่งบประมาณจะพอมี และเพื่อหนังยังคงบันทึกหมายเหตุเมืองไทยไว้ได้อย่างตั้งใจ

นอกจากนั้นก็คือสิ่งที่พวกเรารู้จักรวมทั้งต้องทำใจสารภาพเมื่อก้าวเข้าโรงเพื่อดูหนังของเขาเป็นมุกสัปดน ขายความหยาบคาย และก็การข้ามตรรกะประเภทที่มีตัวละครโผล่มาแบบไม่มีแหล่งที่มา แต่ว่าถ้าปรับโหมดให้ตรงกับจักรวาลหนังแบบ พชร์ อานนท์ ได้แล้ว ขอบอกว่า จะกลายเป็นหนังฮาลั่นไม่สนใจโลกที่คุณจะรังเกียจตนเองว่าถูกใจหนังเรื่องนี้ไปได้อย่างไรเชียวล่ะ

สำหรับแฟนหนังของผู้กำกับไทยที่มีผลงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ข้างหลังสมัย 90s เป็นต้นมา อย่าง “พชร์ อานนท์” ที่แฟรนไชส์หรือหนังภาคต่อที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีการสร้างออกมาหลายภาค

ก็คือ “หอแต๋วแตก” ทำรายได้รวม 6 ภาคไปกว่า 300 ล้านบาท มีตัวละครหลัก “ผีแพนขนมเค้ก” ที่สวมบทโดยโก๊ะตี๋ ในปีนี้ดูอย่างกับว่าดาราหนังอย่าง “แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์” นักแสดงที่หนังยืมชื่อมาใช้ จะได้โคจรมาพบกับจักรวาลนี้จริงๆแล้ว ในหนัง “พจมานสว่างคาตา” ชื่อเดิมพจมาร์สว่างคาตา (ที่ชื่อแอบดูเก๋กว่าชื่อใหม่) ร่วมกับดาราที่กล่าวว่าไม่ค่อยต้องการรับงานแม้จะจ่ายสวยอย่าง “แน็ค-ชาลี ไตรรัตน์” จากแฟนฉัน ที่อยู่ในกระแสไวรัลฮิตเมื่อปีก่อน

นักแสดงหลักจากหอแต๋วแตกกลับมาครบกลุ่มไม่ขาดไม่เกิน ในหนังที่ดัดแปลงจากบทประพันธ์คลาสสิกบ้านทรายทอง ได้แก่ จตุรงค์ พลบูรณ์ รับบทบาทเป็นหม่อมแม่ที่บ้านดอกไม้ทอง

โก๊ะตี๋ อารามบอย รับบทพจมาน, เอกชัย ศรีวิชัย รับบทหญิงใหญ่, คุณครูยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ รับบทหญิงเล็ก, วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย รับบทชายน้อย ด้านแพนเค้ก มารับบทเป็นพจมานแล้วก็เป็นตัวเองด้วย! แล้วก็แน็ค รับบทเป็น ชายตุงกลาง รวมถึงผู้กำกับ นักแสดงวัยรุ่น บาส-สุรเดช และคิมม่อน-วโรดม ก็มารับบทรับเชิญ

Share:

Author: admins